ภาพพื้นหลังเพจ: ผู้สูงอายุชงกาแฟ
เครดิตภาพ: AI Generate by www.freepik.com
ทุกวันนี้เวลาพวกเราออกไปข้างนอกบ้านคงคุ้นเคยกับผู้ให้บริการหรือคนทำงานสูงอายุมากยิ่งขึ้น เช่น พี่แคชเชียร์คิดเงินตามซุปเปอร์มาร์เก็ต ป้าแม่บ้านเก็บจาน-ทำความสะอาดตามศูนย์อาหาร ลุงยามตามลานจอดรถ ซึ่งเราอาจสังเกตความสูงอายุได้จากลักษณะภายนอกไม่ว่าจะเป็น ผมสีขาว ริ้วรอยบนผิวหนัง การเคลื่อนไหวหรือน้ำเสียงของคนทำงานสูงอายุเหล่านี้ ผู้เขียนจึงเกิดความสงสัยว่านอกจากผู้สูงอายุจะมาทำงานหรือให้บริการที่เคยเห็นแล้ว ผู้สูงอายุไทยยังทำงานอะไรอีกบ้าง งานเหล่านั้นมีลักษณะอย่างไร?
เพื่อคลายความสงสัยนี้ ผู้เขียนจึงค้นข้อมูลการทำงานของผู้สูงอายุในประเทศไทย พ.ศ. 2567 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ (https://www.nso.go.th/nsoweb/nso/survey_detail/cj) ที่ใช้ข้อมูลจากการสำรวจภาวะการมีงานทำของประชากรไตรมาสที่ 3 พ.ศ. 2567 และการสำรวจแรงงานนอกระบบ พ.ศ. 2567 พบว่า ผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) จำนวน 5.3 ล้านคนยังคงทำงานอยู่ คิดเป็น 37.2% ของประชากรสูงอายุในประเทศไทย (14.1 ล้านคน) แรงงานสูงอายุส่วนใหญ่ ทำงานส่วนตัวโดยไม่มีลูกจ้าง (64.4%) รองลงมาเป็นผู้ช่วยธุรกิจในครัวเรือนโดยไม่ได้รับค่าจ้าง (19.7%) และเป็นลูกจ้าง 12.4% แรงงานสูงอายุส่วนใหญ่ทำงานในภาคเกษตรกรรม (57.7%) รองลงมาคือภาคบริการและการค้า (32.4%) และภาคการผลิต (9.9%)
การจ้างงานผู้สูงอายุเกิดขึ้นได้จากการพบกันของความต้องการแรงงานของผู้ประกอบการ (อุปสงค์แรงงาน: Labor demand) และความต้องการทำงาน (อุปทานแรงงาน: Labor supply) ผู้เขียนให้ความสนใจในแรงงานสูงอายุที่ทำงานเป็นลูกจ้าง ที่ทำงานในภาคบริการและการค้า และภาคการผลิต ว่าในปัจจุบันผู้ประกอบการต้องการแรงงานสูงอายุไปทำงานอะไร จำนวนเท่าไหร่ โดยเริ่มจากการสืบค้นข้อมูลเว็บไซต์หางานที่ส่งเสริมโดยหน่วยงานภาครัฐ https://ไทยมีงานทำ.doe.go.th ดำเนินการโดยกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน โดยสืบค้นหาตำแหน่งงานว่างสำหรับผู้สูงอายุ ในวันที่ 18 เมษายน 2568 ด้วยเงื่อนไข ช่วงอายุตั้งแต่ 56 ปีเป็นต้นไป และ ยินดีรับผู้สูงอายุ พบว่ามี 82 ประกาศรับสมัครงาน 1,962 ตำแหน่งงาน จาก 66 ผู้ประกอบการประกาศรับสมัครแรงงานสูงอายุ
จากการสืบค้นข้างต้น พบว่าผู้ประกอบการที่ประกาศรับสมัครแรงงานสูงอายุจำนวน 66 ราย 1,962 ตำแหน่งนั้น เกือบทั้งหมดประกอบการในภาคบริการและการค้า ทั้งบริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่และขนาดเล็กที่มีสาขาทั่วประเทศ รวมถึงบริษัทบริหารแรงงาน (Outsource) ที่ต้องการแรงงานไปให้บริการผู้ประกอบการอีกทอดหนึ่งด้วย
แผนภูมิ 1: ร้อยละความต้องการแรงงานสูงอายุแยกตาม ตำแหน่ง ประเภทการจ้าง และค่าจ้าง
ที่มา: วิเคราะห์โดยผู้เขียน จากข้อมูล https://ไทยมีงานทำ.doe.go.th วันที่ 18 เมษายน 2568
ตำแหน่งงานที่ผู้ประกอบการต้องการ: ผู้ประกอบการต้องการแรงงานสูงอายุไปทำงานด้านการบริการและการค้า ในตำแหน่งบาริสต้าหรือพนักงานในร้านกาแฟมากที่สุดจำนวน 858 ตำแหน่ง รองลงมาคือ พนักงานประจำร้าน/สาขา 440 ตำแหน่ง ผู้ช่วยพนักงานขาย 90 ตำแหน่ง พนักงานจัดเรียงสินค้า 80 ตำแหน่ง พนักงานกระจายสินค้า พนักงานเติมสินค้าและพนักงานบริการลูกค้ารายการละ 50 ตำแหน่ง
ประเภทการจ้างแรงงานสูงอายุ: ผู้ประกอบการต้องการจ้างแรงงานสูงอายุในรูปแบบ งานประจำ (66.5%) และรูปแบบงานชั่วคราว/พาร์ทไทม์ (33.5%)
ค่าจ้างแรงงานสูงอายุ: ผู้ประกอบการเสนอค่าจ้างแรงงานสูงอายุในรูปแบบค่าจ้างรายวันมากที่สุด (67.7%) โดยจ่ายวันละ 300-600 บาท ตำแหน่งที่มีค่าจ้างรายวันสูงสุดคือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
รูปแบบรองลงมาคือการจ่ายค่าจ้างรายชั่วโมง (22.8%) โดยจ่ายชั่วโมงละ 40-50 บาท ตำแหน่งที่มีค่าจ้างรายชั่วโมงสูงสุดคือบาริสต้า
และรูปแบบการจ่ายเงินเดือน (9.5%) โดยจ่ายเดือนละ7,500 – 20,665 บาท ตำแหน่งที่ได้เสนอเงินเดือนสูงสุด คือ หัวหน้าแผนกช่างซ่อม/สร้าง รองลงมาคือหัวหน้าแผนกเครื่องจักรทำความเย็น และผู้ช่วยหัวหน้าแผนกคุมเครื่องจักร
แผนภูมิ 2: ร้อยละความต้องการแรงงานสูงอายุแบ่งตามจังหวัด
ที่มา: วิเคราะห์โดยผู้เขียน จากข้อมูล https://ไทยมีงานทำ.doe.go.th วันที่ 18 เมษายน 2568
พื้นที่ที่มีความต้องการแรงงานสูงอายุ: ตำแหน่งงานที่ผู้ประกอบการประกาศรับสมัครส่วนมากอยู่ในเขตกรุงเทพ ปริมณฑลและหัวเมืองใหญ่ โดยอยู่ในกรุงเทพ 1,517 ตำแหน่ง (77.3%) สมุทรปราการ 154 ตำแหน่ง (7.8%) นนทบุรี 100 ตำแหน่ง (5.1%) เชียงใหม่ 50 ตำแหน่ง (2.5%) อุดรธานี 22 ตำแหน่ง (1.1%)
เมื่อพิจารณาลึกลงไปถึงคุณลักษณะของแรงงานสูงอายุที่ผู้ประกอบการต้องการ มีประเด็นที่น่าสนใจ ได้แก่ แรงงานสูงอายุต้องมีสุขภาพดี มีทักษะแรงงาน เช่น ช่างซ่อม ช่างไฟฟ้า ช่างประปา การออกแบบ รวมถึงทักษะการขายและให้บริการ มีทักษะการบริหาร เช่น หัวหน้าแผนก ที่ปรึกษาที่ต้องมีทักษะในการวางแผนงาน ให้คำแนะนำผู้ปฏิบัติงานได้ ความต้องการทักษะสูงหรือทักษะเฉพาะ สำหรับบางตำแหน่งงานที่ไม่ได้ต้องการทักษะเฉพาะ ผู้ประกอบการบางรายมีการจัดทดสอบและฝึกทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานให้ในการสมัครหรือรับเข้าทำงาน โดยทักษะแรงงานระดับที่สูงย่อมสัมพันธ์กับค่าจ้างที่สูงด้วย
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือการที่ผู้ประกอบการจัดการด้านเวลาและสถานที่ในการทำงาน ที่อาจเอื้อประโยชน์หรือเป็นข้อจำกัดของแรงงานสูงอายุ ได้แก่ “ทำงานวันละไม่เกิน 8 ชั่วโมง เลือกวันและเวลาทำงานได้ เลือกสาขาใกล้บ้านได้” “สามารถทำงานเป็นกะได้ ช่วงเวลาทำงานตามที่ตกลงกัน” “ทำงานสัปดาห์ละ 6 วัน หยุด 1 วันใน 1 สัปดาห์” แรงงานสูงอายุจำเป็นต้องนำประเด็นนี้มาพิจารณาในการตัดสินใจสมัครงานหรือทำงานด้วย ว่าสอดคล้องกับสุขภาพ การเดินทางและความรับผิดชอบอื่นๆ ในครอบครัวหรือไม่
แม้ว่าการพิจารณาความต้องการแรงงานสูงอายุไทยของผู้ประกอบการที่อยู่ใน เว็บไซต์ ไทยมีงานทำ จะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความต้องการแรงงานสูงอายุทั้งหมด ที่ไม่ครอบคลุมถึงความต้องการแรงงานในภาคเกษตรกรรม หรือผู้ประกอบการที่มีความต้องการแรงงานสูงอายุแต่ไม่ได้ลงประกาศในเว็บไซต์ไทยมีงานทำนี้ ผู้เขียนคาดหวังว่าการเห็นภาพความต้องการแรงงานสูงอายุจากเว็บไซต์ ไทยมีงานทำ ที่ส่งเสริมโดยหน่วยงานภาครัฐที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบหลักในการจัดหางาน ในมิติของตำแหน่งงาน ประเภทการจ้างงาน ค่าจ้างแรงงาน และพื้นที่ความต้องการแรงงานสูงอายุไทย น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้กำลังจะสูงอายุและผู้สูงอายุในปัจจุบัน ได้เตรียมพร้อมทั้งด้านสุขภาพและทักษะแรงงาน เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการมองหาในแรงงานสูงอายุ สำหรับพวกเราไม่ว่าจะสูงอายุแล้วหรือไม่ก็ตาม “หากเจอ คุณพี่ คุณป้า คุณลุง ที่ทำงานหรือให้บริการพวกเรา ก็ส่งยิ้มเป็นกำลังใจแรงงานสูงอายุกันด้วยนะครับ สังคมสูงวัยจะน่าอยู่ยิ่งขึ้น”