โคเปนเฮเกน เมืองหลวงของประเทศเดนมาร์กได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกของปี 2568 จากการจัดอันดับของ Economist Intelligence Unit (EIU) เดนมาร์กเป็นประเทศขนาดเล็กที่อยู่ในแถบสแกนดิเนเวียมีประชากรประมาณ 6 ล้านคน มีระบบสวัสดิการและโครงสร้างพื้นฐานที่ดี ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐานได้อย่างทั่วถึง ทั้งในด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา มีการปกครองแบบประชาธิปไตย ให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมทางสังคม ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขมากที่สุดในโลก
เมืองโคเปนเฮเกน เป็นเมืองที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมในทุกมิติของการดำเนินชีวิต มีการนำเทคโนโลยีพลังงานสะอาดมาใช้ในการจัดการและพัฒนาเมือง โดยออกแบบเมืองให้ใช้พลังงานสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ พลังงานสะอาดที่นำมาใช้ในเมืองมาจากแหล่งพลังงานธรรมชาติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานความร้อนจากขยะ
การพัฒนาเมืองด้วยการออกแบบและสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประชาชนทุกคนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยการสร้างพื้นที่สีเขียวกระจายอยู่ในทุกพื้นที่ของเขตเมือง ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะ ทางเดินริมคลอง และพื้นที่การเกษตรในเมือง (รูปที่ 1) รวมถึงการออกแบบการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะไปยังสถานที่ต่างๆ ในเมืองที่ได้ออกแบบมาอย่างดี ส่งเสริมให้ประชาชนใช้ยานพาหนะจากพลังงานสะอาด และสามารถเข้าถึงบริการระบบขนส่งมวลชนสาธารณะต่างๆ ได้ง่าย โดยมีบริการขนส่งที่ครอบคลุมพื้นที่และมีประสิทธิภาพ ทั้งรถไฟใต้ดิน รถประจำทางที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ระบบขนส่งสาธารณะมีให้เลือกหลากหลาย สะดวก สะอาด และตรงต่อเวลา ทำให้ประชาชนมีทางเลือกในการเดินทางไปที่ต่างๆ ในเมืองโดยไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์ส่วนตัว
รูป 1: พื้นที่สาธารณะในเมืองโคเปนเฮเกน สำหรับการพักผ่อน และการปั่นจักรยาน
รูปโดย: นิพนธ์ ดาราวุฒิมาประกรณ์
นอกจากเดินทางด้วยระบบบริการสาธารณะที่ดีและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังมีการรณรงค์ให้ประชาชนหันมาใช้จักรยานในการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อช่วยลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ลดมลพิษทางอากาศ และลดความแออัดในระบบขนส่งสาธารณะ การใช้จักรยานในการเดินทางทำให้ประชาชนได้ออกกำลังกายและมีสุขภาพดีขึ้น ที่สำคัญเมืองโคเปนเฮเกน ได้ชื่อว่า เป็นเมืองที่เป็นมิตรกับจักรยานที่สุดในโลก เพราะมีการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับจักรยานอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นช่องทางสำหรับขี่จักรยานที่ปลอดภัย สะพานสำหรับจักรยานโดยเฉพาะ ช่องทางสำหรับจักรยานที่เชื่อมโยงกับพื้นที่สีเขียว และที่จอดจักรยานจำนวนมากทั่วเมือง (รูปที่ 2) ทำให้เมืองโคเปนเฮเกน กลายเป็นเมืองต้นแบบสำหรับการใช้จักรยานให้กับอีกหลายเมืองทั่วโลก การออกแบบเมืองเพื่อให้เป็นมิตรกับการใช้จักรยานได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี โดยประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้มากกว่า 60% ใช้จักรยานเป็นพาหนะหลักในการเดินทางในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเดินทางไปทำงานหรือไปเรียนหนังสือ
รูป 2: จุดจอดรถจักรยานสาธารณะในเมืองโคเปนเฮเกน
รูปโดย: นิพนธ์ ดาราวุฒิมาประกรณ์
หากมีโอกาสได้เที่ยวที่กรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงของเดนมาร์กซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็น “เมืองหลวงแห่งจักรยาน” นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดที่จะลองปั่นจักรยานเพื่อสัมผัสวิถีชีวิตแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การเดินทางด้วยจักรยานจะพาคุณชื่นชมความสวยงามของสถาปัตยกรรม อาคารบ้านเรือน และบรรยากาศเมืองที่เรียบง่ายและเป็นธรรมชาติในแบบฉบับชาวเดนมาร์ก
คุณสามารถใช้จักรยานสาธารณะที่มีให้บริการทั่วเมือง สามารถเช่าได้ง่ายๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือ จากนั้นก็สามารถปั่นไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้อย่างสะดวก และเมื่อต้องการคืนจักรยานก็สามารถนำไปจอดที่จุดรับคืนใกล้เคียงได้ทันที
ดังนั้นเมืองโคเปนเฮเกนจึงไม่ใช่แค่เมืองที่มีความสุขที่สุดในโลกเท่านั้น แต่เป็นเมืองที่ทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีสภาพแวดล้อมน่าอยู่ เป็นเมืองต้นแบบของการพัฒนาเมืองควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมให้มีความยั่งยืนอย่างแท้จริง เป็นเมืองที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการพัฒนาเมืองสามารถทำควบคู่ไปกับการรักษ์โลกได้ และคงจะดีไม่น้อยหากจะนำแนวคิดการพัฒนาเมืองควบคู่ไปกับการรักษ์โลกมาปรับใช้ในบ้านเมืองของเรา