The Prachakorn

นักแสดง–นักวิจัย: สองเส้นทางที่มาบรรจบ


สลักจิต ชื่นชม

19 กันยายน 2568
8



 บางครั้ง โลกที่ดูไกลกันที่สุด อาจเชื่อมถึงกันด้วยเส้นบางๆ ที่เรียกว่า “การเล่าเรื่อง”

“โลกการแสดง ทำให้ฉันเรียนรู้ที่จะเข้าใจ อารมณ์และความรู้สึกของตัวละคร
โลกการวิจัย ทำให้ฉันเรียนรู้ที่จะเข้าถึง มุมมองและประสบการณ์ที่หลากหลายของผู้คน”

เมื่อสองโลกมาเจอกัน 

โลกของนักแสดงโทรทัศน์ สอนให้ฉัน “เล่าเรื่องให้ผู้ชมเข้าใจและอินไปกับบทบาทของตัวละคร”
ในขณะที่ โลกของนักวิจัย สอนให้ฉัน “ฟังเรื่องของคนอื่นอย่างลึกซึ้งและเล่าออกไปแบบไม่ตัดสิน”
แม้สองโลกนี้จะดูห่างไกลกัน แต่ทั้งสองโลกต่างใช้ “การเล่าเรื่อง” (Storytelling) 
และเมื่อการเล่าเรื่องนั้นทำงานร่วมกับความน่าเชื่อถือ การมีส่วนร่วม และการเข้าถึงได้ง่าย มันก็จะก้าวข้ามจากการเป็นเพียงเรื่องเล่า ไปสู่พลังที่เราเรียกว่า Soft Power

เล่าเรื่องสองโลก: จากสคริปต์ละครสู่โลกของงานวิจัย 

ในโลกบันเทิง ทุกการแสดงเริ่มจาก “บท” หรือ “สคริปต์” สิ่งที่ผู้ชมจดจำไม่ใช่เพียงคำพูด แต่คือ “ความรู้สึก” ที่ส่งออกไป ผ่านสายตา น้ำเสียง หรือแม้แต่จังหวะที่เว้นว่างให้คนดูหายใจไปพร้อมกับตัวละคร ทุกเสี้ยววินาทีคือศิลปะการสื่อสารที่ลึกกว่าคำพูด เพราะ “กล้องไม่เคยโกหก” เบื้องหน้าอาจสมบูรณ์แบบบนหน้าจอ แต่เบื้องหลังเต็มไปด้วยความพยายามซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ในโลกวิจัย ทุกการศึกษาก็เริ่มจาก “โจทย์หรือปัญหา” สิ่งที่ดูเป็นเพียงตัวเลขหรือคำตอบจากการสัมภาษณ์ เมื่อถ่ายทอดออกมาอย่างมีน้ำหนัก ก็กลายเป็นเรื่องราวชีวิตจริงที่ทำให้ผู้ฟังไม่เพียง “เข้าใจด้วยหัว” แต่ยัง “รู้สึกด้วยใจ”

สุดท้ายแล้ว จุดที่สองโลกนี้ซ้อนกันก็คือ “การเล่าเรื่อง” ที่ผสาน พลังข้อมูลเข้ากับพลังอารมณ์ เพื่อส่งสารให้ “ตรงใจ” และ “ตราตรึงใจ” เพียงเพื่อหวังว่าจะสามารถเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนเล็กๆ ที่จะสามารถก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงสังคมได้จริง 

จากข้อมูลสู่เรื่องเล่า: ทำให้งานวิจัยมีชีวิต 

และนี่เองคือจุดที่ทำให้ฉันตระหนักว่า ข้อมูลไม่ใช่เพียงตัวเลขหรือรายงาน แต่เมื่อถูกเล่าอย่างมีพลัง มันสามารถ “หายใจ” และ “มีชีวิต” ได้ จนกลายเป็น Soft Power ที่ดึงดูดและสร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริง

Soft Power ไม่ใช่เพียงคำสวยหรู แต่คือพลังที่สร้างแรงดึงดูดและอารมณ์ร่วมได้จริง ประกอบด้วย 4 มิติหลัก ได้แก่ Credibility การมีความน่าเชื่อถือ ที่ช่วยทำให้ข้อมูลมีน้ำหนัก Storytelling การเล่าเรื่องที่ทำให้เข้าใจง่ายและดึงดูด Engagement การสร้างการมีส่วนร่วมและมีปฏิสัมพันธ์ ที่เปลี่ยนผู้ฟังให้กลายเป็นผู้ร่วมสร้างหรือผู้สนับสนุน และ Accessibility การเข้าถึงทั้งทางกายภาพและทางดิจิทัล (Almakaty, 2025) 

แผนภาพ Soft Power ในการสื่อสารงานวิจัย

เพื่อเปลี่ยนข้อมูลวิจัยให้กลายเป็นพลังที่สร้างแรงบันดาลใจและการเปลี่ยนแปลง ฉันจึงเลือกใช้ Storytelling เป็นหัวใจสำคัญ เพราะสามารถช่วยเปลี่ยนข้อมูลวิจัยให้กลายเป็นเรื่องราวที่เข้าถึงง่ายและมีความหมายต่อชีวิตจริง ซึ่ง จุดตัดกันของสองโลก ก็คือ การใช้เทคนิคจากวงการบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นการสบตาผู้ฟัง การเลือกใช้คำพูดที่กระทบแทกใจ หรือการเล่าเรื่องด้วยน้ำเสียงที่มีพลัง ช่วยให้งานวิจัยมีชีวิตและเข้าถึงได้จริงมากยิ่งขึ้น เมื่อผู้ฟังเกิดอารมณ์ร่วม พวกเขาจะมีแรงบันดาลใจในการนำสิ่งที่ได้เรียนรู้นั้นไปใช้จริง ไม่ให้หยุดอยู่แค่ในรายงาน ซึ่งนี่คือ กลไกที่ทำให้ Soft Power เชื่อมโยงไปสู่ Social Impact ได้ในที่สุด 

จุดบรรจบ – สองโลกที่เกื้อหนุนกัน

สำหรับฉัน Social Impact คือการที่ความรู้หรือข้อมูล ไม่ได้หยุดอยู่แค่การสร้างความเข้าใจหรืออารมณ์ร่วมในรายงานเท่านั้น แต่ถูกนำไปใช้จนเกิดการเปลี่ยนแปลงจริงต่อผู้คนและสังคม และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ Soft Power มาบรรจบกับโลกการวิจัย

ตัวอย่างเช่น ในการนำเสนอผลงานวิจัยด้านโครงสร้างประชากรถูกถ่ายทอดผ่านอินโฟกราฟิกและเวทีชุมชน จนกลายเป็นเครื่องมือให้คนในท้องถิ่นสามารถใช้วางแผนการดูแลผู้สูงอายุ หรือการนำข้อมูลบางส่วนไปต่อยอดในบทละครโทรทัศน์ ทำให้ประเด็นวิชาการเข้าถึงคนดูในวงกว้าง และถูกพูดถึงในสังคมอย่างจริงจัง

การเป็นนักแสดงสอนให้ฉันกล้าสื่อสารกับผู้คน ส่วนการเป็นนักวิจัยสอนให้ฉันคิดอย่างเป็นระบบ และเมื่อสองโลกนี้มารวมกัน ฉันสามารถเลือกใช้บทบาทในการแสดง ชื่อเสียง และเครือข่ายจากวงการบันเทิง มาเป็นสะพานเชื่อมให้ข้อมูลวิชาการเดินทางได้ไกลขึ้น ไม่ใช่เพียงข้อมูล แต่คือพลังที่เปลี่ยนความรู้ให้กลายเป็น Social Impact ที่จับต้องได้จริง

 

 

 

 “เวทีนักแสดงโทรทัศน์” vs “เวทีชุมชน”

บทสรุป – เวทีนี้เพื่อทุกคน

“ลองค้นหาสองโลกในชีวิตคุณ แล้วสร้างสะพานให้มันมาบรรจบกันอย่างเต็มศักยภาพ”
“จากสองโลกที่แตกต่าง ฉันได้เรียนรู้ว่า โลกไม่ได้เปลี่ยนเพราะข้อมูลมากขึ้น แต่เพราะเรื่องราวถูกเล่าให้คน อิน และ 
ลงมือทำ ไม่ว่าคุณจะอยู่บนเวทีใด หากเล่าเรื่องด้วยหัวใจ ฟังด้วยความเข้าใจ 
ฉันเชื่อว่า เวทีของคุณก็มีพลังสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้ค่ะ”

 

“งานวิจัยที่คนเข้าใจ คือบทสนทนาที่เริ่มเปลี่ยนโลก” และ
“การเล่าเรื่องคือสะพานระหว่างข้อมูลและความรู้สึก”

 


Tags :

CONTRIBUTOR

Related Posts
Copyright © 2020 สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170
โทรศัพท์ 02-441-0201-4 โทรสาร 02-441-9333
Webmaster: piyawat.saw@mahidol.ac.th