ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางประชากรอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการสูงวัยของประชากร (population ageing) ปัจจัยสำคัญคือ อัตราการเกิดลดลงอย่างต่อเนื่อง และอายุคาดเฉลี่ยเมื่อแรกเกิด “จำนวนปีโดยเฉลี่ยที่คาดว่าบุคคลที่เกิดมาแล้วจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกกี่ปี” ของประชากรเพิ่มสูงขึ้น ทำให้จำนวนประชากรวัยสูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และภายในปี 2577 ประเทศไทยจะกลายเป็น “สังคมสูงวัยระดับสุดยอด”1 โดยมีสัดส่วนประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไป มากกว่าร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด ซึ่งส่งผลต่อภาระทางเศรษฐกิจ สวัสดิการสังคม รวมถึงการขาดแคลนแรงงานภายในประเทศ
ปัจจัยหลักสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างทางประชากร คือ จำนวนการเกิดที่ลดลงอย่างต่อเนื่องและในปี 2567 เป็นปีแรกที่จำนวนเด็กเกิดต่ำกว่า 500,000 คน (แผนภูมิ 1) สะท้อนถึงประชากรวัยแรงงานจะลดลงตามไปด้วย และการลดลงของประชากรวัยทำงาน ผลที่ตามมาคือ อัตราส่วนพึ่งพิงวัยสูงอายุเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงความยากลำบากในการรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสวัสดิการสังคม
แผนภูมิ 1 จำนวนเด็กเกิด
ที่มา: https://www.dopa.go.th/main/web_index ข้อมูล ณ วันที่ 5 กันยายน 2568
United Nations Population Division (UNDP, 2000)2 ได้นำเสนอแนวคิด Replacement Migration เพื่อรับมือกับการลดลงของจำนวนประชากรและการสูงวัยที่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก โดย นโยบาย Replacement Migration หมายถึง การอพยพระหว่างประเทศในระดับที่เพียงพอเพื่อชดเชยการหดตัวของประชากรวัยทำงาน และชะลอความเร็วของการสูงวัย รายงานดังกล่าวได้วิเคราะห์สถานการณ์ประชากรใน 8 ประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รัสเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา โดยพัฒนาสถานการณ์จำลอง 5 แบบ (Scenario 1–5) ดังนี้
สถานการณ์ที่ 1 : ใช้ค่าประมาณการฉบับค่ากลาง (medium variant) จากรายงาน World Population Prospects: 1998 Revision ขององค์การสหประชาชาติ
สถานการณ์ที่ 2 : ใช้ค่าประมาณการฉบับค่ากลางจาก World Population Prospects: 1998 Revision ขององค์การสหประชาชาติ โดยแก้ไขสมมติฐานให้ไม่มีการย้ายถิ่นหลังปี พ.ศ. 2538 (ค.ศ. 1995)
สถานการณ์ที่ 3 : เป็นการคำนวณและสมมติให้มีการย้ายถิ่นในระดับที่จำเป็น เพื่อรักษาจำนวนประชากรทั้งหมดให้อยู่ในระดับสูงสุดที่อาจเกิดขึ้น หากไม่มีการย้ายถิ่นหลังปี พ.ศ. 2538 (ค.ศ. 1995)
สถานการณ์ที่ 4 : เป็นการคำนวณและสมมติให้มีการย้ายถิ่นในระดับที่จำเป็น เพื่อรักษาจำนวนประชากรในวัยทำงาน (อายุ 15–64 ปี) ให้อยู่ในระดับสูงสุดที่อาจเกิดขึ้น หากไม่มีการย้ายถิ่นหลังปี พ.ศ. 2538 (ค.ศ. 1995)
สถานการณ์ที่ 5 : เป็นการคำนวณและสมมติให้มีการย้ายถิ่นในระดับที่จำเป็น เพื่อรักษา อัตราส่วนการพึ่งพิงที่เป็นไปได้ (Potential Support Ratio: PSR) ซึ่งหมายถึงอัตราส่วนระหว่างประชากรวัยทำงาน (อายุ 15–64 ปี) ต่อประชากรสูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) ให้อยู่ในระดับสูงสุดที่อาจเกิดขึ้น หากไม่มีการย้ายถิ่นหลังปี พ.ศ. 2538 (ค.ศ. 1995)
วิเคราะห์สถานการณ์ดังกล่าว เพื่อตรวจสอบผลกระทบของการอพยพระหว่างประเทศของประชากร โดยผลการศึกษาพบว่า แม้ว่าการอพยพสามารถช่วยชะลอการลดลงของประชากรวัยทำงานได้ แต่การรักษาสมดุลระหว่างวัยทำงานและผู้สูงอายุในระดับปัจจุบันยังจำเป็นต้องมีการอพยพในปริมาณสูงมาก ซึ่งไม่สามารถเป็นจริงได้ในทางปฏิบัติ ดังนั้น การจัดการปัญหาสังคมสูงวัยอย่างยั่งยืนจึงต้องอาศัยมาตรการหลายด้านควบคู่กัน เช่น การสนับสนุนการเกิด การเพิ่มอัตราการมีส่วนร่วมของแรงงาน และการยืดอายุการทำงานหรือขยายอายุเกษียณ
หนึ่งในปัจจัยที่อาจจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากสังคมสูงวัยของไทย คือ กลุ่มเด็กที่เกิดในประเทศไทยแต่ไม่ได้รับสัญชาติไทย ซึ่งเด็กกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นบุตรของแรงงานข้ามชาติจากประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ เมียนมา ลาว และกัมพูชา ข้อมูลจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย3 ระหว่างปี พ.ศ. 2558–2567 ระบุว่า มีจำนวนเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี ที่เกิดในประเทศไทยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านแต่ไม่ได้รับสัญชาติไทย ประมาณกว่า 10,000 คนต่อปี (แผนภูมิ 2) การบูรณาการเด็กกลุ่มนี้เข้าสู่ระบบการศึกษา สวัสดิการสังคม และการพิจารณาให้สิทธิในการได้สัญชาติไทย อาจมีส่วนช่วยเพิ่มกำลังแรงงานในอนาคต และปรับปรุงอัตราส่วนประชากรวัยทำงานต่อผู้สูงอายุ (potential support ratio) ได้ในระดับหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะไม่เพียงพอที่จะทดแทนการสูงวัยของประชากรโดยรวม แต่กลุ่มเด็กเหล่านี้ถือเป็น “ทุนมนุษย์” ที่สำคัญต่อการวางแผนนโยบายประชากรระยะยาว
กลุ่มเด็กไร้สัญชาติในประเทศไทยมักประสบข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการพื้นฐาน ทั้งด้านสาธารณสุขและการศึกษา อีกทั้งยังไม่ได้รับสิทธิในการถือสัญชาติไทย ส่งผลให้ไม่สามารถบูรณาการเข้าสู่กำลังแรงงานในอนาคตได้อย่างเต็มศักยภาพ การพิจารณาให้สิทธิด้านสัญชาติและการเข้าถึงการศึกษาแก่เด็กกลุ่มนี้ จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาทุนมนุษย์เพื่อรองรับตลาดแรงงานในอนาคต
นอกจากนี้ หากเด็กไร้สัญชาติที่เกิดและเติบโตในประเทศไทย ที่ได้รับโอกาสด้านการศึกษาและสิทธิทางสัญชาติ จะช่วยลดภาระของรัฐในการนำเข้าแรงงานจากต่างประเทศที่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก เพื่อการบูรณาการทางสังคม (social integration) ทั้งด้านภาษา วัฒนธรรม และการปรับตัวเข้ากับระบบแรงงานไทย เด็กกลุ่มนี้เมื่อเรียนจบจะมีมาตรฐานทางการศึกษาตามระบบการศึกษาของไทย ทำให้เข้าใจสังคมและวิถีชีวิตไทยเป็นอย่างดี สามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากกว่า ในเชิงนโยบาย ประชากรกลุ่มนี้อาจถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิด Replacement Migration ภายในประเทศ ที่มีศักยภาพในการช่วยชะลอการลดลงของประชากรวัยทำงาน อย่างไรก็ตาม จำนวนที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอที่จะทดแทนผลกระทบจากการเข้าสู่สังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์ได้
แผนภูมิ 2 จำนวนเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน จำแนกตามการได้สัญชาติ
ที่มา: https://www.dopa.go.th/main/web_index ข้อมูล ณ วันที่ 5 กันยายน 2568
ในบริบทของแนวคิด Replacement Migration การพึ่งพาเพียงกลุ่มเด็กไร้สัญชาติไม่สามารถแก้ไขปัญหาสังคมสูงวัยของไทยได้อย่างยั่งยืน เนื่องจากจำนวนของเด็กกลุ่มนี้ยังมีข้อจำกัดและไม่เพียงพอที่จะชดเชยแรงงานที่หายไปจากการลดลงของประชากรวัยทำงานได้ การจัดการปัญหาจึงจำเป็นต้องอาศัยมาตรการเชิงบูรณาการหลายด้านควบคู่กันไป ทั้งการสนับสนุนส่งเสริมให้คนไทยมีบุตรเพิ่มขึ้น การเพิ่มอัตราการมีส่วนร่วมในกำลังแรงงานผ่านการนำเข้าแรงงานข้ามชาติ การส่งเสริมให้ผู้สูงอายุยังคงทำงานต่อไป รวมถึงการปรับโครงสร้างอายุเกษียณ ทั้งนี้ การดำเนินมาตรการเหล่านี้ต้องอยู่บนพื้นฐานของการคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน ความเสมอภาค และการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อสร้างสมดุลระหว่างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชากรทุกกลุ่ม
เอกสารอ้างอิง
1. ปราโมทย์ ประสาทกุล. ไทยกำลังจะเป็นสังคมสูงวัยระดับสุดยอดในไม่ช้า. ประชากร. 2568 [เข้าถึงเมื่อ 6 ก.ย. 2568]. เข้าถึงได้จาก: https://www.theprachakorn.com/newsDetail.php?id=1091
2. United Nations Population Division. Replacement migration: Is it a solution to declining and ageing populations? นิวยอร์ก: สหประชาชาติ; 2000.
3. กรมการปกครอง. กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: กระทรวงมหาดไทย;
[เข้าถึงเมื่อ 10 ก.ย. 2568]. เข้าถึงได้จาก: https://www.dopa.go.th/main/web_index