The Prachakorn

ผลกระทบจากแรงงานย้ายถิ่นกลับบ้านและการปลดล็อกแรงงานจากแหล่งอื่น พลิกวิกฤตเกิดน้อย-สังคมสูงวัย


สักกรินทร์ นิยมศิลป์

15 ธันวาคม 2568
8



บทนำ

ในปี 2568 ได้เกิดการอพยพของแรงงานกัมพูชาออกจากประเทศไทยจำนวนมาก เนื่องจากความตึงเครียดชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา โดยเฉพาะการปะทะทางทหารในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ซึ่งนำไปสู่การปิดด่านชายแดน และการรณรงค์จากผู้นำกัมพูชาให้แรงงานชาติตนคืนถิ่น กอปรกับกระแสชาตินิยมในไทยที่ก่อให้เกิดความกังวลเรื่องการเลือกปฏิบัติต่อแรงงานกัมพูชา ทำให้แรงงานกัมพูชาในไทยพากันอพยพออกจากประเทศไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ภายหลังการปะทะชายแดน โดยมีรายงานว่า แรงงงานกัมพูชาเดินทางกลับประเทศมากกว่า 600,000 คน ในช่วงที่เกิดความขัดแย้ง โดยแบ่งเป็นแรงงานที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายประมาณ 300,000 คน และแรงงานนอกระบบอีก 300,000 คน1 ขณะที่ทางการกัมพูชารายงานว่ามีแรงงานกัมพูชาที่กลับประเทศมากถึง 940,000 คน2 ส่วนใหญ่ผ่านด่านชายแดนหลัก เช่น บ้านแหลม (จันทบุรี) คลองหลุก (สระแก้ว) และแหลมงอบ (ตราด) 

การย้ายถิ่นของแรงงานกัมพูชาดังกล่าวส่งผลกระทบรุนแรงต่อตลาดแรงงานไทยที่ประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานจากสังคมสูงวัย โดยเฉพาะภาคธุรกิจที่พึ่งพาแรงงานกัมพูชาจำนวนมาก อาทิ ภาคก่อสร้าง เกษตรกรรม และการผลิตอาหาร สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ประเทศไทยต้องออกมาตรการต่างๆ เพื่อลดผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนแรงงาน รวมถึงเพิ่มอุปทานแรงงานจากแหล่งอื่นๆ นอกเหนือจากกัมพูชา บทความนี้เป็นการสรุปวิเคราะห์ผลกระทบในด้านเศรษฐกิจและสังคมจากการย้ายถิ่นของแรงงานกัมพูชา และมาตรการด้านนโยบายของรัฐและการปรับตัวของภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง

การย้ายถิ่นของแรงงานกัมพูชากับผลกระทบต่อตลาดแรงงานไทย

ก่อนการขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา แรงงานกัมพูชาในไทยที่ได้รับใบอนุญาตทำงานทุกประเภทมีจำนวนรวม 512,174 คน ในเดือนมิถุนายน 2568 (24 มิ.ย. 2568)3 ประกอบด้วยแรงงานตามมาตรา 59 (ทั่วไปและ MOU) จำนวน 184,360 คน มาตรา 62 (ส่งเสริมการลงทุนและอื่นๆ) จำนวน 86 คน มาตรา 63/2 (ตามมติ ครม.) จำนวน 305,441 คน และ มาตรา 64 (ไป-กลับ หรือตามฤดูกาล) จำนวน 22,297 คน ดังนั้น การอพยพของแรงงานกัมพูชาจำนวนหลายแสนคน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสำคัญในแรงงานต่างชาติทั้งหมด (ประมาณ 12%) ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนแรงงานเฉียบพลันในภาคที่ใช้แรงงานเข้มข้น (งาน 3D: สกปรก อันตราย และยากลำบาก) โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกและอีสานใต้ เช่น จันทบุรี ตราด และสุรินทร์ ซึ่งแรงงานกัมพูชาคิดเป็น 70-80% ของกำลังแรงงาน4,5 ดังนี้ 

  1. ภาคเกษตรกรรม โดยเฉพาะการเก็บเกี่ยวผลไม้ เช่น ลำไย ในพื้นที่ภาคตะวันออก ผลผลิตลดลง 30-50% ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว 
  2. ภาคก่อสร้าง โครงการที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานเกิดความล่าช้าและต้นทุนเพิ่มขึ้น 20-30% เนื่องจากการขาดแคลนแรงงานหลัก 
  3. ภาคแปรรูปอาหารและประมง โรงงานในสมุทรสาครและสงขลาลดกำลังการผลิตลง 40% เพราะแรงงานกัมพูชาเป็นกำลังหลัก 60% ในโรงงานเหล่านี้
  4. ภาคบริการ ร้านอาหารและโรงแรมในพื้นที่ท่องเที่ยว เช่น พัทยา ขาดพนักงานทำความสะอาดและพนักงานเสิร์ฟ ทำให้ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว6

การย้ายถิ่นของแรงงานกัมพูชากับผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม

การขาดแคลนแรงงานกัมพูชาโดยฉับพลัน ก่อให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมของไทยในหลายภาคส่วนหลัก โดยเฉพาะภาคส่วนที่พึ่งพาแรงงานไร้ฝีมือสูง ดังนี้

(1) ผลกระทบทางเศรษฐกิจ 

  • ภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ภาคการเกษตรเป็นภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกที่อยู่ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิต เช่น สวนผลไม้และไร่อ้อย  โดยทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เนื่องจากการขาดแคลนแรงงานผลักดันให้ค่าจ้างแรงงานภายในประเทศสูงขึ้น หรือต้องมีการจัดหาแรงงานทดแทนจากชาติอื่นในราคาสูงกว่าเดิม ซึ่งเพิ่มต้นทุนการผลิตและลดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าเกษตรไทยในตลาดโลก นอกจากนี้ การไม่มีแรงงานเพียงพอในฤดูเก็บเกี่ยวทำให้ผลผลิตเน่าเสียคาต้นหรือเก็บเกี่ยวไม่ทันเวลา ส่งผลให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจโดยตรง และกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานการผลิตอาหารและการส่งออก
  • ภาคการก่อสร้างและบริการ แม้ว่าภาคการก่อสร้างและบริการขนาดเล็กจะยังคงมีแรงงานชาติอื่น เช่น เมียนมาและลาว เป็นกำลังหลัก แต่แรงงานกัมพูชาก็เป็นส่วนสำคัญของภาคส่วนเหล่านี้ การขาดแคลนแรงงานส่งผลให้การก่อสร้างโครงการต่างๆ ล่าช้าออกไป และค่าใช้จ่ายในการจ้างงานเพิ่มขึ้น นายจ้างต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการจัดหาแรงงานใหม่หรือการดำเนินการทางเอกสารเพื่อเปลี่ยน/ต่ออายุแรงงานในระบบ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงมาตรการจูงใจเพื่อรักษาแรงงานที่เหลืออยู่8 โดยมีการประเมินว่า จะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น 15-25% และความสามารถในการแข่งขันลดลง9
  • การสูญเสียรายได้ แม้จะกระทบแรงงานกัมพูชามากกว่า (สูญเสียรายได้ 40-65 พันล้านบาทต่อปี หรือกว่า 6.5% ของ GDP กัมพูชา) แต่สำหรับไทย การหายไปของแรงงานกัมพูชา ทำให้เงินหมุนเวียนในชุมชนที่แรงงานหล่านั้นอาศัยอยู่ลดลงถึง 20-30%10

(2) ผลกระทบทางสังคม

การขาดแคลนแรงงานกัมพูชาไม่ได้มีเพียงผลกระทบต่อเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อมิติทางสังคม ดังนี้

  • ปัญหาการใช้แรงงานผิดกฎหมาย เมื่อเกิดการขาดแคลนแรงงานอย่างรุนแรง ผู้ประกอบการบางส่วนอาจหันไปพึ่งพาการจ้างแรงงานผิดกฎหมาย ทำให้เพิ่มความเสี่ยงด้านการค้ามนุษย์ การลักลอบนำเข้าแรงงานทำให้แรงงานต้องจ่ายค่านายหน้าสูงและเผชิญความเสี่ยงต่อการถูกแสวงหาประโยชน์หรือตกเป็นหนี้สิน นอกจากนี้ การมีแรงงานผิดกฎหมายจำนวนมากทำให้การควบคุมและดูแลด้านความมั่นคงและสาธารณสุขทำได้ยากขึ้น 
  • ภาระการบริหารจัดการและกลไกของรัฐ รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งออกนโยบายหรือมาตรการผ่อนผันการขออนุญาตทำงาน หรือการต่ออายุใบอนุญาตให้กับแรงงานที่ใกล้ครบวาระ (MOU) เพื่อป้องกันไม่ให้แรงงานที่เหลืออยู่หลุดจากระบบ แต่ความไม่ชัดเจนของนโยบายจากสถานการณ์ความมั่นคง อาจทำให้การออกมาตรการล่าช้า ทำให้ทั้งแรงงานและนายจ้างเกิดความสับสนและไม่สามารถวางแผนการจ้างงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ปัญหาความไม่มั่นคงทางสังคมตามแนวชายแดน ในช่วงที่เกิดความขัดแย้ง จะมีกลุ่มที่ออกมายั่วยุให้เกิดความเกลียดชัง และไล่ล่าแรงงานกัมพูชา ซึ่งเป็นการสร้างบรรยากาศที่ไม่ปลอดภัยและส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคนไทยกับแรงงานข้ามชาติ ทำให้แรงงานขาดความมั่นใจในการใช้ชีวิตและทำงานในประเทศไทย11 

นโยบายและมาตรการของไทยในการแก้ไขปัญหา

ปัญหาการขาดแคลนแรงงานเป็นประเด็นที่มีความอ่อนไหวและส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อภาคเศรษฐกิจสำคัญ ประเทศไทยจึงแก้ปัญหาโดยใช้มาตรการนโยบายทั้งในเชิงการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติที่มีอยู่ การนำเข้าแรงงานใหม่ และการผ่อนปรนกฎระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกอย่างเร่งด่วน ดังนี้

  1. แผนห้าจุดของกระทรวงแรงงาน ประกอบด้วย การใช้แรงงานไทย (จ้างทหาร นักโทษเก่า และเยาวชนในประเทศ) การจดทะเบียนแรงงานผิดกฎหมาย (ทำให้แรงงานที่ไม่มีเอกสารถูกกฎหมายได้รับสถานะอย่างเป็นทางการเพื่อเติมช่องว่าง)12 การนำเข้าแรงงานจากชาติอื่น (ลงนาม MOU กับศรีลังกาเพื่อนำเข้า 10,000 คนในระยะนำร่อง และพิจารณาเพิ่มเติมจากประเทศเนปาล13) การจ้างผู้ลี้ภัยเมียนมา (อนุญาตให้ผู้ลี้ภัยในค่ายชายแดนทำงานถูกกฎหมายเพื่อทดแทน) การส่งเสริมเทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติ (เพิ่มผลิตภาพผ่านเครื่องจักรและเทคโนโลยีเพื่อลดการพึ่งพาแรงงานต่างชาติ)
  2. มาตรการสามประการหลัก14 ได้แก่ การรักษาแรงงานเดิม (ขยายอายุใบอนุญาตทำงานสำหรับแรงงานกัมพูชาและเมียนมาที่เหลืออยู่จาก 1 ปีเป็น 2 ปี และให้ความผ่อนผันแก่ผู้ถือบัตรผ่านแดน) การขยายการรับเข้า (อนุญาตให้ผู้ลี้ภัยเมียนมาจากพื้นที่ขัดแย้งทำงาน โดยเจรจา MOU เพิ่มเติมกับศรีลังกา และจดทะเบียนแรงงานไม่มีเอกสาร ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 19 สิงหาคม 2568) และ การรับสมัครแรงงานไทย (ขยายการจ้างงานผ่านศูนย์บริการจัดหางานจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานคร และแพลตฟอร์มดิจิทัล “ไทยมีงานทำ” เพื่อจับคู่ผู้หางานไทยกับตำแหน่งว่าง)
  3. มาตรการสนับสนุนอื่นๆ ได้แก่ การจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือ SMEs  5,000 ล้านบาท (สำหรับเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำและลดหย่อนภาษี 10-15% สำหรับผู้ประกอบการที่ลงทุนในเทคโนโลยี15) การปราบปรามและคุ้มครอง (เพิ่มการตรวจสอบนายจ้างเพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิ และเปิดสายด่วนช่วยเหลือแรงงาน16) และการรณรงค์สังคม เพื่อลดอคติต่อแรงงานข้ามชาติผ่านสื่อเพื่อลดความตึงเครียด17

สรุป

การย้ายถิ่นกลับบ้านของแรงงานกัมพูชาในปี 2568 ถือเป็นวิกฤตที่กระทบทั้งเศรษฐกิจและสังคมไทย โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมชายแดนและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อบรรเทาผลกระทบ รัฐบาลได้เร่งนำเข้าแรงงานทดแทน รักษาแรงงานที่ยังคงอยู่ในประเทศ สนับสนุนเทคโนโลยีอัตโนมัติ และส่งเสริมพัฒนาทักษะให้แรงงานไทย รวมถึงรณรงค์ลดอคติทางสังคมผ่านสื่อ มาตรการดังกล่าวเป็นการผสมผสานระหว่างการดำเนินการทางกฎหมายผ่านมติ ครม. การเร่งรัดกระบวนการนำเข้าแรงงานตาม MOU การเจรจาระดับทวิภาคี และการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยและสิทธิแรงงาน แม้ว่ามาตรการเร่งด่วนดังกล่าวจะช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนแรงงานได้ในระดับหนึ่ง แต่ในระยะยาว ประเทศไทยยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายในการพัฒนาระบบการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติที่มีเสถียรภาพและยั่งยืน เพื่อรองรับความผันผวนทางเศรษฐกิจและสังคมในอนาคต


เอกสารอ้างอิง

  1. TNN ข่าวค่ำ. (2568, สิงหาคม 7). “กัมพูชา”แห่กลับ 6 แสนคน ไทยจ่อใช้แรงงาน“ศรีลังกา”แทน [วิดีโอ]. YouTube. https://www.youtube.com/watch?v=CZj97V72NuM
  2. PPTV Online. (2568, ตุลาคม 7). กัมพูชาเผย แรงงานที่กลับจากไทยได้งานแล้ว 300,000 คน เหลืออีก 640,000 คน. PPTVHD36. https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/258660
  3. มนตรี ขัดเรือง. (2568, มิถุนายน 24). “อนาคตแรงงานกัมพูชาในไทย”ภายใต้ปมพิพาท “2 ประเทศ”. NBT CONNEXT. https://nbtconnext.prd.go.th/thainews/news/view/1217909/?bid=1
  4. Nation Thailand. (2568). Thai Industries Face Sudden Labour Crisis Amidst Cambodian Border Tensions. https://www.nationthailand.com/business/economy/40053570
  5. https://world.thaipbs.or.th/detail/nationalist-fury-in-thailand-sparks-cambodian-worker-exodus-and-labour-crisis/58438
  6. Channel News Asia. (2568). 'Unprecedented exodus' of Cambodian workers from Thailand. https://www.channelnewsasia.com/asia/thailand-cambodia-conflict-worker-labour-migrants-abuse-5330536
  7. The Active. (2568, สิงหาคม 7). เครือข่ายด้านประชากรข้ามชาติ จี้ รมว.แรงงาน แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานกัมพูชา. https://theactive.thaipbs.or.th/news/economy-20250807
  8. The 101 World. (2568, สิงหาคม 7). จากชายแดน สะเทือนถึงแรงงาน: สำรวจสถานการณ์แรงงานในความเปราะบางไทย-กัมพูชา. https://www.the101.world/migrant-workers-in-thai-cambodia-conflicts/
  9. Nation Thailand. (2568). Labour Ministry to register unlawful migrant workers to replace Cambodians. https://www.nationthailand.com/news/policy/40054173
  10. อ้างแล้ว
  11. The Active. (2568, สิงหาคม 7). เครือข่ายด้านประชากรข้ามชาติ จี้ รมว.แรงงาน แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานกัมพูชา. https://theactive.thaipbs.or.th/news/economy-20250807
  12. Nation Thailand. (2568). Labour Ministry to register unlawful migrant workers to replace Cambodians. https://www.nationthailand.com/news/policy/40054173
  13. Reuters. (2568). Thailand turning to Sri Lankan workers to cope with Cambodian exodus. https://www.reuters.com/world/asia-pacific/thailand-turning-sri-lankan-workers-cope-with-cambodian-exodus-official-says-2025-08-19/
  14. Khaosod English. (2568). Cambodian Workers in Thailand Drop to 490,000 Amid Border Tensions. https://www.khaosodenglish.com/news/2025/10/07/cambodian-workers-in-thailand-drop-to-490000-amid-border-tensions/
  15. Nikkei Asia. (2568). Thailand seeks new sources of workers following Cambodian outflow. https://asia.nikkei.com/spotlight/immigration/thailand-seeks-new-sources-of-workers-following-cambodian-outflow
  16. Ministry of Labour. (2568). Labour Minister Chairs Foreign Workers' Management Policy Committee Meeting. https://www.mol.go.th/en/news/labour-minister-chairs-foreign-workers-management-policy-committee-meeting-approves-measures-to-support-cambodian-workers-and-reduce-impact-on-border-businesses-and-employers
  17. Channel News Asia. (2568). 'Unprecedented exodus' of Cambodian workers from Thailand. https://www.channelnewsasia.com/asia/thailand-cambodia-conflict-worker-labour-migrants-abuse-5330536

 


Tags :

CONTRIBUTOR

Related Posts
Copyright © 2020 สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170
โทรศัพท์ 02-441-0201-4 โทรสาร 02-441-9333
Webmaster: piyawat.saw@mahidol.ac.th