The Prachakorn

ถ้ำบาตู (Batu Caves) บทพิสูจน์ความศรัทธา


ภัสสร มิ่งไธสง

22 พฤษภาคม 2563
1,652



เมื่อ เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2562 ดิฉันและเพื่อน ๆ ได้เดินทางไปเข้าร่วมและนำเสนอผลงานวิชาการในการประชุมวิชาการระดับนานาชาติ ครั้งที่ 7 ของมหาวิทยาลัยมาลายา (The 7th University of Malaya International Conference on Discourse and Society UMDS 2019) ที่ประเทศมาเลเซีย ดิฉันได้นำเสนอบทความวิชาการเรื่อง “The situations of high skill Khmer labor’s conditions (perspectives from 3d - 3s)” ดิฉันขออนุญาตนำภาพบรรยากาศการเดินทางและการนำเสนองานมาให้ชมนะคะ

  
ที่มาของภาพ นางสาวภัสสร มิ่งไธสง

ทุกครั้งที่ดิฉันมีโอกาสได้เดินทางไปร่วมนำเสนอผลงานวิชาการทั้งในและต่างประเทศ ดิฉันและเพื่อน ๆ มักไม่พลาดการท่องเที่ยวไปยังสถานที่สำคัญ ๆ ของประเทศนั้น ๆ ในครั้งนี้ที่มาเลเซียก็เช่นกัน ดิฉันและเพื่อน ๆ ได้เดินทางไปยังถ้ำบาตู (Batu Caves) ซึ่งเป็นถ้ำหินปูนมีอายุมากกว่า 400 ล้านปี และการจะไปถึงตัวถ้ำได้ต้องขึ้นบันไดถึง 272 ขั้น โดยตามความเชื่อของศาสนาฮินดู จุดสูงที่สุดจะใกล้กับสวรรค์ที่สุด ชาวฮินดูจึงได้สร้างวัดและประดิษฐานรูปปั้นพระขันธกุมารที่สูงที่สุดในโลก เพื่อให้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาฮินดู 

  


ที่มาของภาพ นางสาวภัสสร มิ่งไธสง

แน่นอนค่ะว่า สำหรับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างดิฉันย่อมต้องเหนื่อยยากมาก ๆ ในการขึ้นบันไดสองร้อยกว่าขั้นที่ทั้งสูงทั้งชันแบบนี้ ดิฉันและเพื่อน ๆ เดินไป พักไป ทั้งเหนื่อยและหอบ กว่าจะขึ้นไปถึงตัวถ้ำได้แทบเป็นลมทีเดียว แต่เมื่อขึ้นไปถึงและได้สัมผัสไอเย็นของถ้ำก็รู้สึกชื่นใจ สงบและเย็นขึ้นมาทันที จากนั้น ดิฉันและเพื่อน ๆ ได้ทำการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาฮินดูที่ประกอบไปด้วยรูปปั้นพระศิวะ และรูปปั้นพระขันธกุมาร ตามความเชื่อของดิฉันแล้วถ้ำบาตูมีความศักดิ์สิทธิ์มาก ตามตำนานของศาสนาฮินดู พระศิวะเป็นมหาเทพหรือเทพเจ้าสูงสุดของศาสนาฮินดู มีความเชื่อว่าพระศิวะเป็นผู้ให้ทั้งความเจริญงอกงามและการทำลายล้าง ส่วนพระขันธกุมาร เป็นโอรสของพระศิวะและพระแม่อุมา พระขันธกุมารเป็นแม่ทัพแห่งสวรรค์และถือกันว่าเป็นเทพแห่งสงคราม มีความฉลาด มีความร่ำรวย มีนิสัยกล้าหาญ รักความยุติธรรม รักศักดิ์ศรี และมีความเที่ยงธรรมมาก ดังนั้น จึงมีผู้มาขอพรจากพระศิวะและพระขันธกุมารเพื่อขอให้มีลูก ขอให้หายจากอาการเจ็บป่วย โดยเฉพาะมีผู้ขอพรจากพระขันธกุมารเรื่องความยุติธรรม และชัยชนะในกิจการต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ดิฉันและเพื่อน ๆ ได้ขอพรจากพระศิวะและพระขันธกุมารกันครบทุกคนค่ะ ส่วนจะขอพรอะไรกันบ้าง บอกไม่ได้นะคะ บอกได้แค่ว่าท่านศักดิ์สิทธิ์มากค่ะ

ดิฉันนึกขึ้นได้ว่า ในละครฮินดูที่ดิฉันเคยดูได้กล่าวถึงเรื่องการพิสูจน์ศรัทธาที่มีต่อมหาเทพหรือเทพเจ้าอยู่บ่อย ๆ ตอนนั้นดิฉันไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่การได้มาถ้ำบาตูในครั้งนี้ ทำให้ดิฉันเข้าใจแล้วว่า “การพิสูจน์ศรัทธาในครั้งนี้ของดิฉันและเพื่อน ๆ โดยการไต่บันไดขึ้นเขาด้วยความเหนื่อยยาก เพื่อให้ได้ชมความงามของถ้ำบาตู และได้สักการะบูชา ขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนถ้ำบาตู เปรียบเสมือนเวลาที่ทำความดี บางครั้งจะมีอุปสรรค มีความเหนื่อยยาก ลำบากใจ จนทำให้แทบจะถอดใจไม่ทำแล้ว ซึ่งอุปสรรคเหล่านี้ คือ การพิสูจน์ศรัทธาว่า เราตั้งใจทำให้ได้อย่างที่เราพูดไว้จริงหรือไม่ หากเราตั้งใจจริง เราก็จะฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านั้นได้สำเร็จ นำมาซึ่งความชื่นใจเช่นเดียวกันกับความชื่นใจที่พวกเราสามารถไต่บันไดขึ้นไปสู่ถ้ำบาตูได้สำเร็จ” 

ดิฉันคิดขอบคุณถ้ำบาตูแห่งนี้ ที่ทำให้ดิฉันเข้าใจเรื่องบทพิสูจน์ความศรัทธาในครั้งนี้ ดิฉันจึงตั้งใจว่าเวลาที่ดิฉันลงมือทำงานที่เกิดประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น ดิฉันจะไม่บ่นเวลามีเหตุการณ์ที่ไม่ได้ดั่งใจเกิดขึ้น เช่น ฝนตก แดดออก เงินไม่เข้าตามกำหนด ออกไปข้างนอกไม่ได้ ทำงานไม่เสร็จตามกำหนด หรือเกิดเจ็บป่วยกะทันหัน ฯลฯ แต่สิ่งที่ดิฉันจะเลือกทำแทนการบ่น คือ การลงมือทำต่อไปจนกว่าจะสำเร็จ ดิฉันหวังว่าทุกท่านจะได้รับความสุขใจจากบทความของดิฉันในครั้งนี้นะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไปในครั้งหน้าค่ะ

     

  

ที่มาของภาพ นางสาวภัสสร มิ่งไธสง


Tags :

CONTRIBUTOR

Related Posts
Copyright © 2020 สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170
โทรศัพท์ 02-441-0201-4 โทรสาร 02-441-9333
Webmaster: piyawat.saw@mahidol.ac.th