เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยสูงอายุ การพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ควรให้ความสำคัญไม่แพ้โรคภัยไข้เจ็บ เนื่องจากเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับสองในกลุ่มของการบาดเจ็บโดยไม่ตั้งใจ รองจากการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน จากการสำรวจของกลุ่มป้องกันการบาดเจ็บจากพลัดตกหกล้ม โดยกรมควบคุมโรค พบว่า ในปี 2565 มีผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป บาดเจ็บจากการพลัดตกหกล้มและต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลจำนวน 89,355 คน และเสียชีวิตจากการพลัดตกหกล้มจำนวน 1,255 คน โดยผลกระทบที่ตามมาหลังจากผู้สูงอายุเกิดเหตุหกล้ม คือ ความเจ็บป่วยทางร่างกาย เช่น ภาวะกระดูกหัก ความพิการทุพลภาพ สูญเสียความสามารถในการดำเนินชีวิตประจำวัน และการเสียชีวิต นอกจากนี้ยังรวมถึงผลเสียทางด้านจิตใจและสังคม เช่น ภาวะกลัวการหกล้ม อารมณ์ซึมเศร้า เป็นภาระต่อญาติผู้ดูแลและสังคม ซึ่งคิดเป็นงบประมาณหลายพันล้านบาทที่ต้องสูญเสียในแต่ละปีสำหรับการดูแลผู้สูงอายุที่บาดเจ็บจากการพลัดตกหกล้ม
การพลัดตกหกล้มเป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ เนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของกระบวนการชราภาพ ที่เกี่ยวข้องกับความเสื่อมถอยของระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกายที่มีผลต่อการทรงตัว เช่น ความเสื่อมของการมองเห็น การได้ยิน การเคลื่อนไหวของข้อต่อ รวมถึงความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อที่ลดลง ทำให้ผู้สูงอายุไม่สามารถรักษาจุดศูนย์กลางของมวลร่างกายให้อยู่ในฐานที่สมดุลได้และเกิดการหกล้มขึ้น นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัยเป็นปัจจัยเสี่ยงอย่างหนึ่งที่มีผลต่อการพลัดตกหกล้ม โดยพบว่า ลักษณะสภาพแวดล้อมทางกายภาพในบ้านหรือชุมชนของประเทศแถบเอเชียส่วนมากอาจก่อให้เกิดอันตราย เช่น พื้นผิวลื่นหรือพื้นผิวที่ไม่เรียบ ไม่มีราวจับบริเวณบ้าน ขั้นตอนและการออกแบบอาคารที่ไม่ดี เป็นต้น นอกจากนี้จากการสำรวจประชากรสูงอายุในประเทศไทย ปี 2564 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า สาเหตุหลักที่ทำให้ผู้สูงอายุเกิดการพลัดตกหกล้ม คือ การสะดุด (ร้อยละ 42.8) รองลงมา คือ การลื่น (ร้อยละ 35.5) พื้นต่างระดับ (ร้อยละ 9.9) และเกิดอาการหน้ามืด/วิงเวียน (ร้อยละ 6.4) ตามลำดับ
พัฒนาโดย: ผู้เขียน อ้างอิงข้อมูลจากการสำรวจประชากรสูงอายุในประเทศไทย ปี 2564, สำนักงานสถิติแห่งชาติ
บทความนี้จึงขอนำเสนอแนวทางป้องกันการพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุ ดังนี้
ดังนั้น การดูแลสุขภาพร่างกาย และการปรับปรุงที่อยู่อาศัย เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมให้มีความปลอดภัย จึงสามารถลดความเสี่ยงของการพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุได้ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของการเตรียมพร้อมด้านที่อยู่อาศัยในผู้สูงอายุยุคปัจจุบัน สำหรับการใช้ชีวิตช่วงสูงวัยในบ้านเดิมของตนเองด้วยความผูกพันที่มีกับครอบครัว รวมทั้งความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนบ้านและชุมชน ตามแนวคิดการสูงวัยในถิ่นที่อยู่ (aging in place)
เอกสารอ้างอิง
ภาพปก freepik.com (premium license)