The Prachakorn

เพศและเพศภาวะ (Sex and Gender)


วรชัย ทองไทย

15 มิถุนายน 2563
11,258



โดยทั่วไปสิ่งมีชีวิต (พืชและสัตว์) แบ่งออกเป็น 2 เพศ (sex) คือ เพศผู้และเพศเมีย ตามลักษณะของอวัยวะสืบพันธุ์ เมื่อพืชหรือสัตว์เติบโตเต็มที่ เพศผู้และเพศเมียจะทำการผสมพันธุ์เพื่อสืบทอดพันธุ์ อันเป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งของสิ่งมีชีวิต เช่นเดียวกับการกินและการนอน อย่างไรก็ตาม พืชและสัตว์บางชนิดก็สามารถสืบทอดพันธุ์ได้โดยไม่ต้องอาศัยเพศ เช่น เห็ด ไผ่ ปลาดาว ผึ้ง มด เป็นต้น

ในภาษาอังกฤษคำว่า “sex” มีความหมาย 2 นัยยะ โดยนัยยะแรกหมายถึงเพศทางกายภาพ ได้แก่ เพศผู้และเพศเมีย ส่วนนัยยะหลังหมายถึงการผสมพันธุ์ แต่ในภาษาไทยคำว่า “เพศ” จะหมายถึงเพศทางกายภาพเท่านั้น

สังคมมนุษย์ส่วนใหญ่ถือว่าเพศเป็นทวิภาค (binary) คือ เพศชายกับเพศหญิง ตามลักษณะของอวัยวะสืบพันธุ์เมื่อแรกเกิด แต่คนบางคนอาจเกิดมาโดยมีอวัยวะสืบพันธุ์ทั้งสองเพศที่เรียกว่า เพศกำกวม (intersex) คนเหล่านี้จะถูกพ่อแม่กำหนดให้เป็นเพศใดเพศหนึ่งด้วยการเลี้ยงดู ซึ่งทารกอาจถูกผ่าตัดเอาอวัยวะเพศที่ไม่ต้องการออกตอนคลอดด้วย

เพศภาวะ (gender) คือ ลักษณะต่าง ๆ ที่บ่งบอกความเป็นชายหรือความเป็นหญิง อันประกอบด้วยเพศทางกายภาพ (เพศชาย เพศหญิง) เพศทางสังคม (บทบาททางเพศ) และอัตลักษณ์ทางเพศ ในเกือบทุกวัฒนธรรมจะถือว่าเพศภาวะเป็นทวิภาคเช่นเดียวกันกับเพศ นั่นคือแบ่งออกเป็นกลุ่มเด็กชายหรือผู้ชาย กับกลุ่มเด็กหญิงหรือผู้หญิง ส่วนผู้ที่อยู่นอกกลุ่มจะถูกเรียกรวมกันว่า เพศที่สาม (third sex) หมายถึงเพศอื่นๆ ทั้งหมด

รูป 1 สัญลักษณ์เพศหญิง เพศที่สาม และเพศชาย
ที่มา: https://phys.org/news/2018-03-gender-equality-tackle-unconscious-biases.html
สืบค้นเมื่อ 24 เมษายน 2563

สำหรับบทบาททางเพศ (gender role หรือ sex role) หมายถึง บทบาทของผู้ชายและผู้หญิงที่สังคมได้กำหนดไว้เป็นมาตรฐานที่ต้องทำตามในการแสดงออก การพูด เสื้อผ้า การแต่งตัว และการประพฤติปฏิบัติ  เช่น ผู้หญิงต้องแต่งตัวเป็นผู้หญิง อ่อนช้อย และสุภาพ ส่วนผู้ชายจะต้องแข็งแรง ก้าวร้าว และกล้าหาญ ซึ่งบทบาทเหล่านี้จะแตกต่างกันไปในแต่ละวัฒนธรรมและเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เพราะเป็นสิ่งที่มนุษย์คิดขึ้น ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ

ส่วนอัตลักษณ์ทางเพศ (gender identity) หมายถึง ความรู้สึกภายในว่าตนเองเป็นเพศไหน โดยจะแสดงออกทางการแต่งตัว ลักษณะท่าทาง และความประพฤติ ความรู้สึกภายในนี้จะเกิดขึ้นตั้งแต่อายุยังน้อย คนเกือบทั้งหมดจะรู้สึกว่าตนเองเป็นผู้ชายหรือเป็นผู้หญิง ซึ่งมักจะตรงกับเพศเมื่อแรกเกิด แต่ก็มีบางคนที่รู้สึกว่า ตนเองมีเพศที่ไม่ตรงกันกับเพศเมื่อแรกเกิด คนกลุ่มนี้เรียกว่า "คนข้ามเพศ" (transgender) แต่บางครั้งคนที่ถูกเรียกว่าคนข้ามเพศ ก็อาจเป็นเพราะไม่ได้ประพฤติตนตามที่สังคมคาดหวังเท่านั้น

สรุปแล้ว เพศเป็นเรื่องของกายภาพ ส่วนเพศภาวะเป็นสิ่งที่สังคมได้คาดหวัง ตั้งมาตรฐาน และกำหนดคุณลักษณะที่ผู้ชายและผู้หญิงจะต้องทำตาม
ในสังคมที่ถือว่าเพศและเพศภาวะเป็นทวิภาคนั้น จะยอมรับแต่การแต่งงานและการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างคนต่างเพศเท่านั้น รวมทั้งต้องประพฤติตัวตามเพศของตนด้วย ทำให้ผู้ที่มีความรู้สึกแตกต่างกลายเป็นพวกนอกสังคมไป คนเหล่านี้จึงได้รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องสิทธิของตนโดยใช้ชื่อว่า "กลุ่มคนหลากหลายทางเพศ” (LGBTQ+)

LGBTQ+ ย่อมาจาก Lesbian (หญิงรักหญิง) Gay (ชายรักชาย) Bisexual (รักทั้งสองเพศ) Transgender (คนข้ามเพศ) Queer (คนลักเพศ) Questioning (สงสัยในเพศ) โดยใช้อักษรแรกของแต่ละคำ และต่อท้ายด้วยเครื่องหมายบวก (+) เพื่อใช้แทนกลุ่มคนที่อยู่นอกเหนือไปจากนี้ ได้แก่ เพศกำกวม ไม่ฝักใจทางเพศ (asexual) รักทุกเพศ (pansexual) ไม่มีเพศภาวะ (agender) สองเพศภาวะ (bigender) ทุกเพศภาวะ (pangender) และกลุ่มอื่นๆ อีกที่อาจเกิดขึันในอนาคต

เมื่อสังคมเปิดกว้างมากขึ้นในเรื่องเพศ ก็อาจมีคนบางคนในสังคม (โดยเฉพาะวัยรุ่น) เกิดความสับสนในความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกับเพศ เพศภาวะ และเพศวิถี (sexuality: ความใคร่หรือความปรารถนาทางเพศที่บุคคลหนึ่งมีต่อบุคคลหนึ่ง) ทำให้องค์กรทรัพยากรการศึกษานักเรียนข้ามเพศ (Trans Student Educational Resources) จัดทำอินโฟกราฟิก (infographic) เรื่องยูนิคอร์นเพศภาวะ (Gender Unicorn) ขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้สับสนสามารถประเมินความรู้สึกของตนเองในเรื่องเหล่านี้ (รูป 2)

รูป 2 อินโฟกราฟิกเรื่อง ยูนิคอร์นเพศภาวะ
ที่มา: http://transstudent.org/what-we-do/graphics/gender-unicorn/
สืบค้นเมื่อ 2 พฤษภาคม 2563

อินโฟกราฟิกเป็นการอธิบายเรื่องราวให้เข้าใจได้ง่ายและรวดเร็วด้วยภาพ ดังรูป 2 จะเห็นว่า ยูนิคอร์นเพศภาวะได้แบ่งความรู้สึกทางเพศออกเป็น 5 ด้าน ประกอบด้วยอัตลักษณ์ทางเพศ (Gender Identity) การแสดงออกทางเพศ (Gender Expression) เพศเมื่อแรกเกิด (Sex Assigned at Birth) ความดึงดูดทางร่างกาย (Physically Attracted to) และความดึงดูดทางอารมณ์ (Emotionally Attracted to) โดยแต่ละด้านจะมีทางเลือกได้ 3 ทาง คือ หญิง ชาย และอื่น ๆ

ความรู้สึกทางเพศแต่ละด้านจะใช้สัญลักษณ์และสีที่สอดคล้องกัน ระหว่างยูนิคอร์นด้านซ้ายกับแบบประเมินด้านขวา โดยที่สัญลักษณ์บนตัวยูนิคอร์นแสดงถึงจุดที่เกิดความรู้สึกทางเพศแต่ละด้าน ส่วนในแบบประเมินความรู้สึกจะเพิ่มสัญลักษณ์ของทางเลือกขึ้นอีกคือ ลูกศรและจุด

ทางเลือกที่แสดงด้วยลูกศรเป็นการประเมินระดับความรู้สึก จากไม่มีความรู้สึกเลยที่แสดงด้วยวงกลมด้านซ้าย ไปสู่ความรู้สึกมากที่สุดทางขวาที่เป็นหัวลูกศร โดยที่ผู้ประเมินต้องประเมินความรู้สึกของตนเองทั้งสามทาง ด้วยการใส่เครื่องหมายกากะบาดบนลูกศรทั้งสามดอก ส่วนทางเลือกที่แสดงด้วยจุดซึ่งมีเพียงด้านเพศเมื่อแรกเกิด จะให้เลือกเพียงทางเดียว คือ กากะบาดที่จุดที่ตนรู้สึก

รูปภาพ สัญลักษณ์ และสีที่เป็นสากลทำให้เข้าใจง่ายขึ้น ได้แก่ อัตลักษณ์ทางเพศใช้สายรุ้งเป็นสัญลักษณ์ ซึ่งตรงกับสัญลักษณ์ของ LGBTQ+ ส่วนรูปยูนิคอร์นที่กำลังคิดถึงสายรุ้ง ก็แสดงให้เห็นว่า อัตลักษณ์ทางเพศเป็นความรู้สึกนึกคิดที่อยู่ในตัวเรา

เนื่องจากการแสดงออกทางเพศเป็นสิ่งที่เห็นได้จากภายนอก เช่น เสื้อผ้า กิริยาท่าทาง การแสดงออก และการแต่งกาย จึงใช้จุดสีเขียววาดเป็นเงาของยูนิคอร์น ส่วนเพศเมื่อแรกเกิดก็ใชัสัญลักษณ์ DNA วางอยู่ตรงตำแหน่งของอวัยวะสืบพันธุ์

สำหรับความดึงดูดทางร่างกายและความดึงดูดทางอารมณ์นั้น เป็นส่วนประกอบของเพศวิถี อันเป็นความปรารถนาทางเพศจึงใช้หัวใจเป็นสัญลักษณ์
เมื่อผู้ประเมินได้ตอบคำถามครบทุกข้อแล้ว ก็จะช่วยให้เห็นความรุ้สึกทางเพศ เพศภาวะ และเพศวิถีของตนเองชัดเจนขึ้น แต่ถ้ายังสงสัยอยู่ ก็สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ www.transstudent.org/gender

สำหรับผู้ได้รับรางวัลอีกโนเบลที่ทำวิจัยเกี่ยวกับเพศ คือ

  • ปี 2560 สาขาชีววิทยา ได้มอบให้กับนักวิจัยชาวญี่ปุ่น บราซิล และสวิส (Kazunori Yoshizawa, Rodrigo Ferreira, Yoshitaka Kamimura และ Charles Lienhard) สำหรับการค้นพบลึงค์ตัวเมีย (female penis) และโยนีตัวผู้ (male vagina) ในตัวแมลงที่อาศัยในถ้ำ
  • ปี 2550 สาขาสันติภาพ ได้มอบให้กับ Air Force Wright Laboratory ประเทศสหรัฐอเมริกา สำหรับการทดลองและพัฒนาอาวุธเคมีที่มีชื่อเรียกว่า "ระเบิดแต๋ว" (gay bomb) ซึ่งจะกระตุ้นความรู้สึกทางเพศของทหารฝ่ายศัตรูให้มีต่อเพศเดียวกัน
  • ปี 2546 สาขาชีววิทยา ได้มอบให้กับ C.W. Moeliker จาก Natuurhistorisch Museum Rotterdam ประเทศเนเธอแลนด์ ผู้เป็นคนแรกที่ได้บันทึกรายงานทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับพฤติกรรมวิตถารทางเพศของเป็ดป่า

รางวัลอีกโนเบล: รางวัลที่เรียกเสียงหัวเราะก่อน แล้วจึงได้คิด


หมายเหตุ: ปรับปรุงจาก “เพศและเพศภาวะ” (Sex and Gender) ใน ประชากรและการพัฒนา 40(5) มิถุนายน - กรกฎาคม 2563:8 โดยเพิ่มเรื่องการประเมินความรู้สึกทางเพศ

คำสำคัญ: เพศ เพศภาวะ บทบาททางเพศ อัตลักษณ์ทางเพศ เพศวิถี ความรู้สึกทางเพศ เพศที่สาม เพศกำกวม คนข้ามเพศ กลุ่มคนหลากหลายทางเพศ LGBTQ+ ชายรักชาย หญิงรักหญิง รักทั้งสองเพศ คนลักเพศ สงสัยในเพศ ไม่ฝักใจทางเพศ รักทุกเพศ ไม่มีเพศภาวะ สองเพศภาวะ ทุกเพศภาวะ ยูนิคอร์นเพศภาวะ
 

 



CONTRIBUTOR

Related Posts
มาชะลอวัยกันเถอะ!

ปราโมทย์ ประสาทกุล

รอหมูป่าออกจากถ้ำ

ปราโมทย์ ประสาทกุล

ถึงแตกต่าง แต่ไม่ต่างกัน

อรรถพล ศรีชิษณุวรานนท์

พิธีกร

วรชัย ทองไทย

สูงวัยแต่ไม่แก่

ปราโมทย์ ประสาทกุล

มิติเพศที่หลากหลายในสังคมไทย

นิพนธ์ ดาราวุฒิมาประกรณ์

Copyright © 2020 สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170
โทรศัพท์ 02-441-0201-4 โทรสาร 02-441-9333
Webmaster: piyawat.saw@mahidol.ac.th