The Prachakorn

“อาสาสมัครสาธารณสุข” ในเรือนจำ


กัญญา อภิพรชัยสกุล

26 มิถุนายน 2568
497



อาสาสมัครสาธารณสุขในเรือนจำ เป็นบทความต่อเนื่องจากบทความ “หมอในเรือนจำ” ซึ่งเป็นบทความที่ผู้เขียนได้เขียนถึงระบบการดูแลด้านสุขภาพของผู้ต้องขังในเรือนจำ โดยมีพยาบาลประจำเรือนจำหรือที่ผู้ต้องขังทุกคนเรียกว่า “หมอ” ผู้เป็นบุคลากรที่มีความสำคัญและเป็นกลไกสำคัญในการดูแลด้านสุขภาพให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำ 

อาสาสมัครสาธารณสุขในเรือนจำ (อสรจ.) เป็นอีกหนึ่งกลไกที่สำคัญเช่นกันในการดูแลสุขภาพของผู้ต้องขัง การเข้าถึงบริการสุขภาพของผู้ต้องขังเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติยังพบข้อจำกัดหลายประการในการมารับบริการสุขภาพภายในเรือนจำ โดยเฉพาะในกระบวนการคัดกรองผู้ต้องขังและการมารับบริการรักษาที่เรือนพยาบาล ในการคัดกรองโรคให้ผู้ต้องขังในแต่ละแดนจึงต้องดำเนินการโดยอาสาสมัครประจำแดน หรือผู้ดูแลที่อาจขาดความรู้เฉพาะทาง ส่งผลให้ผู้ต้องขังบางรายเข้าไม่ถึงการดูแลรักษาอย่างเหมาะสมและทั่วถึง ดังนั้น เพื่อยกระดับคุณภาพการดูแลสุขภาพในเรือนจำ รวมถึงส่งเสริมให้ผู้ต้องขังได้รับบริการอย่างเท่าเทียม โครงการ "ราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์" (ผู้จัดการออนไลน์, 2562) หรือเรียกสั้นๆ ว่า “โครงการราชทัณฑ์ปันสุข” เป็นโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร และมีการสืบสานต่อยอด ดำเนินงานโครงการฯ ต่อโดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 

“โครงการราชทัณฑ์ปันสุข” เป็นโครงการเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ต้องขัง โครงการราชทัณฑ์ปันสุขได้รับพระบรมราชานุญาตให้ดำเนินงานด้านการส่งเสริมสุขภาพในเรือนจำ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับการดูแลผู้ต้องขังให้เท่าเทียมบุคคลภายนอก จัดระบบการดูแลสุขภาพผู้ต้องขังให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลตลอดจนปรับปรุงสิ่งแวดล้อมเพื่อการป้องกันโรคและส่งเสริมสุขภาพ จัดหาอุกรณ์ทางการแพทย์ให้กับเรือนจำ ทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลแม่ข่าย พัฒนาบุคลากรของกรมราชทัณฑ์ให้มีความก้าวหน้าในสายงานและส่งเสริมขวัญกำลังใจ และการพัฒนาศักยภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขในเรือนจำ (อสรจ.) ให้ได้มาตรฐานและสามารถตอบสนองการดูแลสุขภาพผู้ต้องขังในเรือนจำได้ 

การจะเป็น อสรจ. ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องผ่านหลักสูตรฝึกอบรมอาสาสมัครสาธารณสุขในเรือนจำ (กรมสนับสนุนระบบบริการ, 2562) ที่ดำเนินการโดยกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข โดยในปี 2563 ได้นำหลักสูตรปี 2561 มาปรับปรุงเพื่อให้ อสรจ. มีความรอบรู้ด้านสุขภาพ (Health Literacy) และพฤติกรรมสุขภาพ (Health Behavior) เป็นการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจในการดูแลสุขภาพ การคัดกรองโรคเบื้องต้น การส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค ตลอดจนการดูแลสิ่งแวดล้อมในเรือนจำ ให้เอื้อต่อสุขภาวะของผู้ต้องขังอย่างเหมาะสมและยั่งยืน การพัฒนาอาสาสมัครสาธารณสุขในเรือนจำ นอกจากจะเป็นการสร้างกลไกดูแลสุขภาพภายในเรือนจำแล้ว ยังเป็นกระบวนการฟื้นฟูจิตใจ พัฒนาศักยภาพ และปลูกฝังจิตอาสาให้แก่ผู้ต้องขังด้วย ซึ่งมีความสำคัญต่อทั้งสุขภาวะของผู้ต้องขังเองและเป้าหมายการคืนคนดีสู่สังคมในระยะยาวอีกด้วย 

สำหรับการคัดเลือกผู้ต้องขังเพื่อเข้ารับการอบรมเป็น อสรจ. มีเกณฑ์สำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1) สถานภาพทางวินัย ต้องเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นดี หรืออย่างน้อยเป็นนักโทษชั้นกลางที่มีความประพฤติดี เหลือโทษจำคุกไม่น้อยกว่า 1 ปี โดยผู้บัญชาการเรือนจำสามารถใช้ดุลยพินิจคัดเลือกได้ตามบริบทเฉพาะ 2) ระดับการศึกษา ต้องสามารถอ่านออกเขียนได้ หรือสำเร็จการศึกษาขั้นต่ำระดับประถมศึกษาปีที่ 6 และ 3) สุขภาพและพฤติกรรม ต้องมีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ และมีพฤติกรรมสุขภาพที่ดีเป็นแบบอย่างแก่ผู้ต้องขังรายอื่น 


ภาพ หลักสูตรฝึกอบรมอาสาสมัครสาธารณสุขในเรือนจำ (อสรจ.). 
สืบค้นจาก https://hss.moph.go.th/show_topic.php?id=3129 

หลักสูตรการอบรมนั้น ถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมศักยภาพของผู้ต้องขังในการเป็นผู้นำด้านสุขภาพภายในเรือนจำ โดยมีหลักการสำคัญ คือ เน้นการพัฒนาองค์ความรู้ ทักษะพื้นฐาน และเจตคติที่เหมาะสมในการทำงานด้านสุขภาพ ผสมผสานทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติจริง เพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพและข้อจำกัดของผู้ต้องขัง หลักสูตรพัฒนา อสรจ. จึงมีจุดมุ่งหมายให้ อสรจ. ได้มีความรู้ความสามารถ และมีทัศนคติที่เหมาะสมสำหรับการปฏิบัติงานด้านสุขภาพดูแลผู้ต้องขังในเรือนจำ ทั้งส่งเสริมให้นำความรู้ไปใช้ในการคัดกรอง เฝ้าระวัง รวมถึงถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านสุขภาพสู่เพื่อนผู้ต้องขัง นอกจากนี้ ยังต้องดูแลสิ่งแวดล้อมภายในเรือนจำด้วย สำหรับตัว อสรจ. เองก็เป็นการสร้างเสริมบุคลิกภาพ การมีมนุษยสัมพันธ์ มีคุณธรรม และมีวินัยในตนเอง เพื่อให้เป็นผู้นำด้านสุขภาพที่ได้รับความไว้วางใจ รวมถึงปลูกฝังจิตสำนึกแห่งความเสียสละและความเป็นพลเมืองที่ดี มีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ต้องขัง และส่งเสริมจิตสำนึกในความเสียสละแม้จะอยู่ในบริบทของการต้องโทษด้วย

ผู้เขียนได้มีโอกาสสัมภาษณ์ อสรจ. รายหนึ่ง “หมู” (นามสมุติ) หมูให้ข้อมูลว่า ในโลกที่ถูกจำกัดด้วยกำแพงสูงและกฎระเบียบมากมายของเรือนจำ การดูแลสุขภาพของผู้ต้องขังไม่ใช่เรื่องง่าย สำหรับหมูการได้รับโอกาสเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขในเรือนจำ ถือได้ว่า เป็นโอกาสที่ดีที่เข้ามาในชีวิต เพราะได้เรียนรู้เกี่ยวกับสุขภาพ ได้รับการพัฒนาศักยภาพในการเป็นผู้ดูแล เป็นผู้ช่วยเหลือผู้ต้องขังด้วยกันได้ และเป็นการเปลี่ยนบทบาทของตนเองจากผู้รับมาเป็นผู้ให้แก่เพื่อนผู้ต้องขังด้วยกัน 

“เป็นอาสาสมัครในเรือนจำ ถือเป็นโอกาสที่ดี เกิดความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของสุขภาพ สามารถดูแลผู้ป่วยได้ ซึ่งทางเรือนจำให้โอกาส เราสามารถเจาะเลือดได้ ทำแผลได้ รู้ถึงอันตรายของโรค เนื่องจากมีการอบรมให้ความรู้ที่เรือนพยาบาลอยู่ตลอดเวลา สามารถสังเกตได้ว่า อาการแต่ละอย่างเป็นอะไร และแจ้งพยาบาลได้ทัน” 
(อสรจ. ในเรือนจำแห่งหนึ่ง)

หมูยังให้ข้อมูลว่า หน้าที่ของ อสรจ. นั้น ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเรียนรู้เรื่องสุขภาพ และให้ความรู้กับผู้ต้องขังด้วยกันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเป็นผู้ช่วยพยาบาลเรือนจำในการดูแลปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วย เช่น การเจาะเลือด ทำแผล และให้คำแนะนำสุขภาพ โดยหมูจะได้รับการอบรมให้ความรู้จากเจ้าหน้าที่พยาบาลเรือนจำอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้หมูสามารถสังเกตอาการของโรคต่าง ๆ ได้ รวมถึงตระหนักถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมอีกด้วย หมูเหลือโทษอีกไม่มาก หมูบอกว่าหากพ้นโทษออกไป จะไปเป็นอาสาสมัครกู้ภัยโดยจะนำความรู้ที่ได้รับจากเรือนจำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อผู้อื่นต่อไป 

จะเห็นได้ว่าบทบาทของอาสาสมัครสาธารณสุขในเรือนจำ (อสรจ.) ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การเรียนรู้และถ่ายทอดความรู้ด้านสุขภาพหรือการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อดูแลเพื่อนผู้ต้องขังด้วยกันเท่านั้น หากแต่ยังเป็นกระบวนการที่ช่วยปลูกฝังจิตสำนึกของความเสียสละ ความมีน้ำใจ และความมีจิตอาสาที่จะช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งเป็นคุณค่าที่ติดตัวผู้ต้องขังหลังพ้นโทษออกไปสู่โลกภายนอก

สำหรับผู้ต้องขังบางคน เช่น "หมู" การทำหน้าที่ อสรจ. ทำให้เขาค้นพบเป้าหมายใหม่ในชีวิต นั่นคือการได้ทำประโยชน์เพื่อผู้อื่น เช่น อาสาสมัครกู้ภัย โดยตั้งใจจะนำความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกฝนในเรือนจำไปใช้ในการช่วยเหลือผู้คนในสถานการณ์ฉุกเฉินภายนอกเรือนจำต่อไป ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า กระบวนการฝึกอบรม อสรจ. ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อการดูแลสุขภาพภายในเรือนจำเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นฟูและเตรียมความพร้อมในการกลับคืนสู่สังคม อย่างมีจิตสาธารณะและเห็นคุณค่าในตัวเองอีกด้วย 

ชวนติดตามบทความต่อไปของผู้เขียน เรื่อง “ผู้ต้องขังในเรือนจำ”


กิตติกรรมประกาศ  ผู้เขียนขอขอบพระคุณ ผู้บัญชาการเรือนจำ พยาบาลเรือนจำ ผู้ต้องขัง อาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ในการอำนวยความสะดวกให้ผู้เขียนได้มีโอกาสได้เข้าไปเก็บข้อมูลในการดูแลผู้ต้องขังในเรือนจำมา ณ ที่นี้  


เอกสารอ้างอิง

  • กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข & กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม. (2562). หลักสูตรฝึกอบรมอาสาสมัครสาธารณสุขในเรือนจำ (อสรจ.). สืบค้นจาก https://hss.moph.go.th/show_topic.php?id=3129 
  • ผู้จัดการออนไลน์. (2562, ธันวาคม 29). ในหลวง‑พระราชินี ทรงเปิดโครงการ "ราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์". ผู้จัดการรายวัน. สืบค้นจาก https://mgronline.com/daily/detail/9620000124134?utm_source=chatgpt.com

 


Tags :

CONTRIBUTOR

Related Posts
Copyright © 2020 สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170
โทรศัพท์ 02-441-0201-4 โทรสาร 02-441-9333
Webmaster: piyawat.saw@mahidol.ac.th