The Prachakorn

การสอบ O-NET ควรไปต่อหรือพอแค่นี้?


มนสิการ กาญจนะจิตรา

24 กุมภาพันธ์ 2564
809



ในยุคที่เด็กเกิดน้อยลงทุกวัน การจัดการศึกษาที่มีคุณภาพให้กับประชากรอย่างทั่วถึงเป็นหนึ่งในรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศต่อไป 

ทุกวันนี้ การศึกษาขั้นพื้นฐานเข้าถึงเด็กไทยอย่างทั่วถึงแล้วแต่ในเรื่องคุณภาพการศึกษายังคงเป็นความท้าทายสำคัญ การวัดประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการเรียนการสอนมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสะท้อนคุณภาพการจัดการศึกษา การสอบ O-NET (Ordinary National Educational Test) ซึ่งเป็นการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานที่จัดขึ้นโดยสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) มีวัตถุประสงค์ เพื่อทดสอบ วัดความรู้และความคิดของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ประเมินตามมาตรฐานการเรียนรู้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เป็นตัวชี้วัดหนึ่งที่สำคัญในการสะท้อนระดับคุณภาพการจัดการเรียนการสอนในประเทศไทย 

จากการดำเนินการมากว่า 14 ปี ตั้งแต่ดำเนินการสอบครั้งแรกเมื่อปี 2549 (ปีการศึกษา 2548) ผลคะแนนจากการสอบ O-NET ของนักเรียนไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 อยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าร้อยละ 50 เกือบทั้งสิ้น ถือว่านักเรียนไทยสอบตกกันมาโดยตลอด โดยเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ที่คะแนนอยู่ในระดับต่ำมาก   

คะแนนสอบ O-NET ยังสะท้อนให้เห็นความเหลื่อมล้ำในการศึกษาอีกด้วย เพราะคะแนน O-NET มีลักษณะเกาะเป็นกลุ่มตามระดับฐานะทางเศรษฐกิจของนักเรียนอย่างชัดเจน นั่นคือ โรงเรียนที่มีนักเรียนร่ำรวยกว่ามีคะแนนเฉลี่ย O-NET สูงกว่ากลุ่มโรงเรียนที่มีนักเรียนยากจนกว่าอย่างมาก  

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา O-NET ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากหลายภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของมาตรฐานของแบบทดสอบ ที่มีความกำกวม เกินกว่าหลักสูตรกำหนด และข้อสอบผิดเป็นจำนวนมาก จึงเกิดคำถามว่า O-NET สามารถวัดคุณภาพการศึกษาได้อย่างแท้จริงหรือไม่

เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ในปีที่ผ่านมา ทำให้การจัดการเรียนการสอนไม่สามารถดำเนินการไปอย่างปกติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการจึงได้ลงนามในหนังสือเรื่อง การยกเลิกการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานปีการศึกษา 2563 ซึ่งเป็นการยกเลิกเนื่องจากสถานการณ์ฉุกเฉินนี้เท่านั้น แต่มีแนวโน้มว่า หากได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพ่อแม่ผู้ปกครอง นักเรียนและสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในฐานะผู้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง อาจมีแนวโน้มยกเลิกการสอบ O-NET  อย่างถาวรไม่ใช่ชั่วคราว

ผู้เขียนตั้งข้อสังเกตในเรื่องหลักการของการจัดทดสอบระดับชาติที่ใช้ข้อสอบกลางจัดสอบเหมือนกันทั่วประเทศ เกิดขึ้นโดยมีสาเหตุที่สำคัญประการหนึ่งคือการวัดความรู้ของนักเรียนว่าได้มาตรฐานตรงกับที่หลักวิชาและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตรงตามมาตรฐานการศึกษาของชาติหรือไม่ โดยที่ไม่ได้เป็นการรับฟังข้อมูลจากสถานศึกษาที่เป็นคนจัดการศึกษาเองเพียงฝ่ายเดียว (เชื่อว่าสถานศึกษาทำหน้าที่ได้ดี แต่ในเชิงหลักการ ควรมีคนนอกมาช่วยเป็นกระจกสะท้อนผลการดำเนินงานของตัวเอง ประกอบกับการทดสอบของสถานศึกษาด้วย เพื่อช่วยให้ผลสะท้อนใกล้เคียงความจริงมากที่สุด) 

การสอบ O-NET จึงเป็นโอกาสที่เราจะรับรู้ถึงสถานการณ์คุณภาพการศึกษาของผู้เรียนจากหน่วยงานที่เป็นอิสระ ที่เราคาดหวังว่าจะทำงานอย่างตรงไปตรงมา แน่นอนว่ามาตรฐานการทดสอบ O-NET ยังมีปัญหาอยู่พอสมควร และมีเรื่องที่ต้องพัฒนาต่อยอดอีกหลายประเด็นเพื่อให้การสอบ O-NET มีมาตรฐานตามความคาดหวังได้ แต่ถึงอย่างไรก่อนที่เราจะพิจารณาว่าการสอบ O-NET ควรไปต่อหรือพอแค่นี้ ก็ควรตั้งหลักไว้ให้มั่นว่า หากปัญหาเป็นเพียงมาตรฐานการทดสอบ เราก็แก้ปัญหาในจุดนี้ให้สำเร็จ ไม่ใช่ยกเลิกการสอบ O-NET ทั้งหมด และถ้า ยกเลิกไปจริงๆ ควรมีการทดสอบอย่างอื่นเข้ามาทดแทนและมีประสิทธิภาพเหนือกว่าหรือไม่ หรือเราไม่อยากรู้ว่าหลังจากใช้จ่ายงบประมาณ ลงแรงลงใจกับการพัฒนาการศึกษาไปอย่างมากมาย ผลที่ได้ผ่านตัววัดที่คุณภาพผู้เรียนเป็นอย่างไรบ้าง คงน่าเสียดายที่เราอุตส่าห์ลงหลักปักฐานในเรื่องนี้มากว่าสิบปีแล้ว กองเชียร์ O-NET และกลุ่มไม่เห็นด้วยกับการสอบ O-NET คงต้องจับตาดูถึงสถานการณ์ในเรื่องนี้ต่อไปอย่างใกล้ชิด  

ที่มา: https://www.pngegg.com/en/png-bqzhr สืบค้นเมื่อ 21 มกราคม 2564

ภาพประกอบโดย Pixabay

 



CONTRIBUTOR

Related Posts
ยาหลอก

วรชัย ทองไทย

ประชากรศาสตร์ของโควิด-19

ปราโมทย์ ประสาทกุล

Copyright © 2020 สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170
โทรศัพท์ 02-441-0201-4 โทรสาร 02-441-9333
Webmaster: piyawat.saw@mahidol.ac.th