การส่งเสริมการกินผักและผลไม้ให้ได้เพียงพอตามเกณฑ์แนะนำโลก คือ อย่างน้อย 400 กรัมต่อวัน1 มีความสำคัญต่อการส่งเสริมสุขภาพที่ดีของประชากร แต่ในขณะเดียวกันก็มีความท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเลือกใช้มาตรการที่มีประสิทธิผล รวมถึงมาตรการรณรงค์เพื่อสร้างการรับรู้ในระดับประชากร
มาตรการสำคัญในการสร้างการรับรู้ในระดับกว้างที่สำคัญในปัจจุบันคงหนีไม่พ้นการโฆษณารณรงค์ต่างๆ ผ่านช่องทางที่สามารถเข้าถึงประชากรได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ หรือผ่านทางการสื่อสารอื่นๆ เช่น โทรทัศน์ หรือวิทยุ ฯลฯ การรณรงค์ส่งเสริมเรื่องอาหารที่ดีต่อสุขภาพจึงถูกนำมาใช้ในหลากหลายระดับ ได้แก่ 1) ระดับสื่อมวลชน (mass media campaigns: MMC) ซึ่งเป็นการดำเนินการสื่อสารทางเดียวเพื่อให้ข้อมูลผ่านป้ายโฆษณา ใบปลิว ทีวี และวิทยุ เช่น การรณรงค์เรื่อง “The 2&5” (ส่งเสริมการบริโภคผลไม้ 2 ส่วน และผัก 5 ส่วน) ของประเทศออสเตรเลียที่พบว่ามีประสิทธิภาพดีเยี่ยม2 สำหรับประเทศไทย รัฐบาลได้ดำเนินการ MMC เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับอาหารและโภชนาการ รวมไปถึงการลดไขมัน/น้ำตาล/เกลือ และส่งเสริมให้บริโภคผักและผลไม้เพิ่มขึ้น3 2) การรณรงค์สื่อการตลาดเพื่อสังคม (Mass media social marketing campaigns: MMSMC) ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางสังคมและสภาพแวดล้อมเพื่อให้ทางเลือกแก่ประชาชนผ่านสื่อมวลชน เช่น ทีวี วิทยุ เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย งานประชาสัมพันธ์ผ่านการจัดเวทีสาธารณะ และสื่อสิ่งพิมพ์ เช่น การรณรงค์เรื่อง 2:1:1 (บริโภคผัก 2 ส่วน ข้าวและเนื้อ 1 ส่วน) ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)4 และ 3) การรณรงค์ในชุมชน (Community-based campaigns: CBC) ซึ่งเป็นการรณรงค์ในระดับอำเภอและตำบล โดยทั่วไปจะดำเนินการโดยองค์กรภาคประชาสังคม ชาวบ้าน และอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน เป็นต้น ดังนั้นจึงเป็นที่น่าสนใจว่าอิทธิพลของการรณรงค์ในระดับข้างต้น (MMC, MMSMC และ CBC) รวมถึงปัจจัยทางประชากรและสังคมมีผลต่อการบริโภคผักและผลไม้เพียงพออย่างไร บทความนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอิทธิพลของการรณรงค์ในระดับ MMC, MMSMC และ CBC รวมถึงปัจจัยทางประชากรและสังคมที่มีผลการบริโภคผักและผลไม้เพียงพอของประชากร
จากข้อมูลของโครงการศึกษาพฤติกรรมการบริโภคผักและผลไม้ของคนไทย ดำเนินการโดยสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล โดยเก็บข้อมูล 2 รอบ คือ รอบที่ 1 ปี 2561 และรอบที่ 2 ปี 2562 โดยศึกษาเฉพาะกลุ่มตัวอย่างที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปจำนวนตัวอย่างทั้งสิ้น 4,649 คน พบว่า การรณรงค์แบบ MMC และการรณรงค์แบบ CBC ส่งผลต่อการกินผักและผลไม้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ยังไม่พบผลกระทบต่อการกินผักและผลไม้ให้ได้เพียงพอตามเกณฑ์โลก ในขณะที่การรณรงค์แบบ MMSMC ของ สสส. ในประเด็น 2:1:1 กลับพบว่า มีผลต่อการกินผักและผลไม้เพียงพออย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ยังพบปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อการกินผักและผลไม้เพียงพอ ได้แก่ การศึกษาในระดับปริญญาตรีขึ้นไป การมีอาชีพ และการมีกิจกรรมทางกาย
จากผลการศึกษาที่ชี้ให้เห็นว่า การรณรงค์แบบ MMSMC สามารถช่วยให้ประชากรบรรลุการกินผักและผลไม้ได้ตามเกณฑ์โลก อย่างไรก็ตาม การรณรงค์แบบ MMC และการรณรงค์แบบ CBC ก็ยังมีความสำคัญ เนื่องจากมีส่วนช่วยให้ประชากรเพิ่มการกินผักและผลไม้ได้ ซึ่งเป็นไปตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก ดังนั้นควรดำเนินการรณรงค์ผ่านการสร้างและพัฒนาสื่อต่างๆ ที่มีเป้าหมายเกี่ยวกับอาหารและโภชนาการอื่นๆ อย่างต่อเนื่องและในระยะยาว
ที่มา
Phulkerd, S., Thapsuwan, S., Chamratrithirong, A., Gray, R. S., Pattaravanich, U., Ungchusak, C., & Saonuam, P. (2022). Implementing population-wide mass media campaigns: Key drivers to meet global recommendations on fruit and vegetable consumption. PloS one, 17(8), e0273232.
อ้างอิง
วีรภาคย์ ซำศิริพงษ์,สิรินทร์ยา พูลเกิด
พิมลพรรณ นิตย์นรา
นงนุช จินดารัตนาภรณ์