ตั้งแต่ 1 มกราคม 2563 เป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้วที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อในประเทศไทยงดแจกถุงหูหิ้วพลาสติก ในช่วงแรกของการดำเนินการอาจจะมีเสียงบ่นจากผู้บริโภคถึงความไม่สะดวกสบายอยู่บ้างในการที่ต้องเตรียมถุงผ้าหรือถุงพลาสติกพกไปด้วย อย่างไรก็ตามขณะนี้สังเกตได้ว่าผู้บริโภคเกิดการปรับตัว และคุ้นชินกับพฤติกรรมใหม่ จนได้กลายเป็นนิสัยว่าต้องมีถุงผ้าติดตัวไปด้วยเสมอ เมื่อต้องออกไปซื้อของ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดประมาณผลจากการงดแจกถุงพลาสติกนี้ว่าจะสามารถลดปริมาณถุงพลาสติกได้ 29% หรือ เท่ากับถุงพลาสติก 13,000 ล้านใบ/ปี คิดเป็นมูลค่าเงินประมาณ 2,400 ล้านบาท
ทำไมสังคมจึงต้องหันมาให้ความสนใจกับการลดใช้พลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้ง (single-use plastic) และทำไมภาครัฐจำเป็นต้องออกนโยบายและมีมาตรการจริงจังในการลดขยะพลาสติกประเภทนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีรายงานข่าวการเสียชีวิตของสัตว์ชนิดต่างๆ จากการกินถุงพลาสติกหรือเศษขยะพลาสติกที่ไม่ย่อยสลายเข้าไปบ่อยมากขึ้น
มาเรียม...ลูกพยูนเซเลปขวัญใจชาวโซเชียล หนึ่งในสัตว์ที่เสียชีวิตจากการที่มีเศษถุงพลาสติกอุดตันภายในกระเพาะอาหาร การตายของมาเรียมทำให้คนไทยเรียนรู้ถึงผลกระทบจากการตกค้างของขยะพลาสติกและสะสมอยู่ในสิ่งแวดล้อมเป็นปริมาณมากที่ใกล้ตัวเข้ามามากขึ้นทุกที
ที่ผ่านมาเรายังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนว่าผลกระทบโดยตรงจากขยะพลาสติกตกค้างในสิ่งแวดล้อมเป็นปริมาณมากส่งผลเสียกับต่อสุขภาพมนุษย์เราอย่างไร เราทราบเพียงว่า ขยะพลาสติกเหล่านี้เมื่อเวลาผ่านไปจะเปลี่ยนสภาพ เกิดการแตกตัวลดขนาดลงเรื่อยๆ จนมีขนาดเล็กมากในระดับที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ซึ่งเรียกพลาสติกจิ๋วนี้ว่า “ไมโครพลาสติก”
มีรายงานวิจัยที่ตรวจพบไมโครพลาสติกในห่วงโซ่อาหาร โดยเฉพาะในสัตว์น้ำขนาดเล็กตามแหล่งประมงต่างๆ ของประเทศไทยทั้งในทะเลและแม่น้ำ คำถามสำคัญที่เกี่ยวกับผลกระทบของไมโครพลาสติกต่อสุขภาพ คือ ด้วยขนาดที่เล็กนี้มันสามารถเข้าไปสู่ร่างกายมนุษย์ได้หรือไม่ และหากเข้าไปได้จะทำให้เกิดผลเสียกับร่างกายได้อย่างไร เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมามีการเผยแพร่ผลงานวิจัยชิ้นสำคัญที่ตรวจพบไมโครพลาสติกในช่วงขนาด 5-10 ไมครอน (µm) (ขนาดประมาณเท่ากับเม็ดเลือดแดง) ในรกของหญิงชาวอิตาลีที่คลอดทารก โดยตรวจพบไมโครพลาสติก 4 คน จากทั้งหมด 6 คน ผลจากงานวิจัยนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราทราบว่า ไมโครพลาสติกสามารถแตกตัวจนมีขนาดเล็กมากพอที่อาจจะเคลื่อนผ่านเข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิตของมนุษย์ได้
สาเหตุที่หยิบยกเรื่องมาตรการงดแจกถุงพลาสติกตามห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ จนถึงผลกระทบต่อสุขภาพที่เกิดจากไมโครพลาสติกมาเล่าให้ฟังก็เพราะพวกเราจะต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งอีกครั้งในปีหน้านี้ โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำหนดใน roadmap การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561-2573 ว่าภายในปี 2565 จะนำมาตรการเลิกใช้พลาสติกเพิ่มเติมอีก 4 ชนิด มาเริ่มดำ.เนินการ ได้แก่ ถุงหูหิ้วความหนาน้อยกว่า 30 ไมครอน หลอด แก้วน้ำ และกล่องโฟมใส่อาหาร ดังนั้นช่วงเวลาประมาณหนึ่งปีจากนี้ไป พวกเราคงต้องเริ่มปรับตัวเปลี่ยนพฤติกรรมให้ชินกับการใช้อุปกรณ์เหล่านี้ที่ทำจากวัสดุย่อยสลายได้หรือวัสดุที่นำกลับมาใช้ซ้ำได้ เช่น หลอดกระดาษ หลอดแก้ว หลอดสแตนเลส กล่องอาหารทำจากวัสดุย่อยสลายได้ หรือถุงผ้า เมื่อยิ่งปรับตัวได้เร็วเท่าไหร่ก็ทำให้เราคุ้นชินกับนิสัยใหม่ได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น ถึงแม้ว่าตอนนี้เรายังไม่รู้แน่ชัดว่าการใช้พลาสติกเหล่านี้มีผลกระทบกับสุขภาพเราอย่างไรก็ตาม
ที่มา: https://www.mic.com/p/microplastic-pollution-is-everywhere-how-concerned-do-we-need-to-be-19207575 สืบค้นเมื่อ 1 มีนาคม 2564
อ้างอิง