เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา (ปี 2564) ผู้เขียนมีโอกาสได้เดินทางไปศึกษาวิจัย ณ มหาวิทยาลัยซาลซ์บวร์ก ประเทศออสเตรีย ซึ่งการเดินทางไปต่างประเทศในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้นเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ไม่น้อยสำหรับผู้เขียน นอกจากการขอวีซ่าแล้ว ผู้ที่ประสงค์จะเดินทางเข้าประเทศออสเตรียต้องทำการกรอกเอกสาร Pre-Travel Clearance หรือ PTC และนำผลการตรวจโควิด-19 แบบ PCR Test ที่เป็นลบหรือไม่พบเชื้อที่มีอายุไม่เกิน 72 ชั่วโมงไปแสดงก่อนเข้าประเทศ โดยสายการบินจะตรวจสอบเอกสารของผู้โดยสารอย่างละเอียด บรรยากาศที่สนามบินสุวรรณภูมินั้นค่อนข้างเงียบเหงา ระหว่างเดินไปยังอาคารผู้โดยสาร ผู้เขียนเห็นหลายส่วนของสนามบินอยู่ระหว่างการปรับปรุงตกแต่ง จำนวนผู้โดยสารบนเครื่องบินนั้นน้อยบางตาอย่างเห็นได้ชัดจนสามารถนอนยาวบนที่นั่งได้
บรรยากาศเมืองซาลซ์บวร์ก จากริมแม่น้ำ Salzach ภาพถ่ายโดยผู้เขียน
เมื่อเดินทางมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติเวียนนา ประเทศออสเตรีย ด่านตรวจคนเข้าเมืองได้แจ้งกับผู้เขียนว่าให้ทำการกักตัวอยู่ในบ้านเป็นเวลา 10 วัน ทั้งนี้การกักตัวในวันที่ 5 ผู้เขียนสามารถออกจากบ้านเพื่อไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีกครั้ง และหากผลเป็นลบก็สามารถยุติการกักตัวที่บ้านได้ การนัดหมายเพื่อขอตรวจโควิด-19 ทำได้ง่ายและสะดวก โดยการพิมพ์ชื่อเมือง แล้วตามด้วยคำว่า “testen” (ตรวจเชื้อ) เช่น Salzburg testen ก็จะเจอศูนย์ตรวจที่เปิดให้บริการตรวจโควิด-19 บุุคคลทั่วไปสามารถทำการนัดหมายวัน เวลาและสถานที่ที่ต้องการไปตรวจได้ และเมื่อถึงวันนัดหมายก็สามารถแสดงบาร์โค้ดที่ได้รับจากการลงทะเบียนให้แก่เจ้าหน้าที่ ซึ่งในวันที่ 5 ของการกักตัว ผู้เขียนเดินทางไปยังศูนย์ตรวจตามที่ได้ลงทะเบียนไว้ การตรวจครั้งแรกของผู้เขียนมีเจ้าหน้าที่ทำการ swab หรือ เก็บสารคัดหลั่งบริเวณหลังโพรงจมูกให้ แต่ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา จะเปลี่ยนเป็นการแจกชุดทดสอบแทน แล้วให้ผู้รับการตรวจทำทดสอบเอง ก่อนที่จะนำตัวอย่างไปยื่นให้แก่เจ้าหน้าที่ หลังจากนั้นภายใน 15-30 นาที ผลตรวจจะถูกส่งกลับมาให้ทราบทั้งทาง SMS และ email ที่ลงทะเบียนไว้ เมื่อได้รับผลก็ถือเป็นอันเรียบร้อย โดยผู้เขียนได้รับแจ้งผลตรวจที่เป็นลบจึงสามารถยุติการกักตัวได้ทันที
ผู้คนต่อแถวรอตรวจโควิด ณ ศูนย์ตรวจ Kongresshaus ภาพถ่ายโดยผู้เขียน
สถานการณ์โควิด-19 ที่ประเทศออสเตรียในช่วงเดือนพฤษภาคมค่อนข้างมีแนวโน้มที่ดีขึ้นหลังจากที่มีการระบาดสูงในช่วงต้นเดือนเมษายน ซึ่งมีผลทำให้บางเมือง เช่น เวียนนาต้องประกาศล็อกดาวน์ พ่อค้าร้านไอศกรีมแถวมหาวิทยาลัยบอกกับผู้เขียนว่า เขารู้สึกได้ว่านี่คือช่วงท้ายๆของโควิด-19 แล้ว จำนวนผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนนั้นมากขึ้นและจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง อีกไม่นานการใช้ชีวิตแบบเดิมจะกลับมา ส่วนเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยท่านหนึ่งกล่าวกับผู้เขียนว่า ขอให้ผู้เขียนใช้เวลาเที่ยวชมเมืองซาลซ์บวร์กอย่างเต็มที่ เนื่องจากซาลซ์บวร์กเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวจีนและอินเดีย แต่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เมืองนี้ค่อนข้างเงียบเหงา อย่างไรก็ตาม เธอเชื่อว่าอีกไม่นานนักท่องเที่ยวจะกลับมาเยือนที่นี่เป็นปกติอย่างเดิม
การใช้ชีวิตกับโควิด-19 ในช่วงเดือนพฤษภาคมค่อนข้างผ่อนคลาย ประชาชนสามารถถอดหน้ากากอนามัยได้เมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้งและมีอากาศถ่ายเท แต่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่อใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ เมื่อเข้าไปในตัวอาคาร หรือเมื่อต้องการซื้อสินค้าในร้านค้าและร้านอาหาร โดยจะเป็นการซื้อสินค้าในลักษณะการนำกลับไปทานที่บ้าน และเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 ทางการก็มีการผ่อนปรนมาตรการ โดยอนุญาตให้นักท่องเที่ยวจากประเทศในทวีปยุโรปสามารถเดินทางเข้ามายังประเทศออสเตรียได้ รวมถึงยังอนุญาตให้นั่งรับประทานอาหารที่ร้านได้ โดยทุกครั้งที่จะใช้บริการในร้านจะต้องมีการแสดงผลการตรวจโควิด-19 ที่มีอายุไม่เกิน 48 ชั่วโมง นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทั้งเมืองก็ค่อนข้างคึกคักและมีสีสัน ในวันที่อากาศดีจะเห็นผู้คนออกมาเดินเล่นในเมือง รับประทานอาหาร พูดคุย และทำกิจกรรมกลางแจ้ง ผู้เขียนเห็นบรรยากาศดังกล่าวแล้วก็ได้แต่ภาวนาในใจขอให้คนไทยได้กลับมาใช้ชีวิตปกติแบบนี้เหมือนกัน
จงจิตต์ ฤทธิรงค์
ชื่นฤทัย กาญจนะจิตรา
นุชราภรณ์ เลี้ยงรื่นรมย์
วรเทพ พูลสวัสดิ์
จรัมพร โห้ลำยอง,ศิรินันท์ กิตติสุขสถิต
ภูเบศร์ สมุทรจักร
นันท์สินี ศิริโกสุม,ปิยวัฒน์ เกตุวงศา
ปราโมทย์ ประสาทกุล
พรสุรีย์ จิวานานนท์
อมรา สุนทรธาดา
ปราโมทย์ ประสาทกุล
ปราโมทย์ ประสาทกุล
สุภรต์ จรัสสิทธิ์
วรชัย ทองไทย
ดนุสรณ์ โพธารินทร์
ปิยวัฒน์ เกตุวงศา
เพ็ญพิมล คงมนต์
ปราโมทย์ ประสาทกุล
นงนุช จินดารัตนาภรณ์
บุรเทพ โชคธนานุกูล
มนสิการ กาญจนะจิตรา