ผลกระทบอันเลวร้ายจากการระบาดของโควิด-19 คือ การเสียชีวิตของผู้คนมากมายรอบโลก ทุกเช้าเราจะเห็นรายงานผู้เสียชีวิตรายใหม่ ที่สะท้อนถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการเสียชีวิตจากโควิด-19 ที่เราเห็นในแต่ละวัน เป็นเพียงส่วนหนึ่งของผลกระทบของโรคต่อการสูญเสียชีวิตเท่านั้น
ในความเป็นจริง โควิด-19 ส่งผลต่อการตายมากกว่าตัวเลขที่รายงานอย่างเป็นทางการ เพราะโควิด-19 ส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อการเสียชีวิต The Economist ได้ให้เหตุผลไว้ 3 ประการ ว่าทำไมตัวเลขการตายจากการติดโควิด-19 ที่แต่ละประเทศรายงานจึงไม่สามารถสะท้อนสถานการณ์การระบาดได้ทั้งหมด ประการแรก คือ ตัวเลขการเสียชีวิตจากโควิด-19 ในหลายประเทศ ไม่ได้รวมผู้เสียชีวิตที่ไม่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ ซึ่งในความเป็นจริงยังมีผู้เสียชีวิตจำนวนไม่น้อยที่เสียชีวิตจากโควิด-19 แต่ไม่ได้รับการตรวจเชื้อ ประการที่สอง ข้อมูลการเสียชีวิตต้องใช้เวลาในการดำเนินการออกใบมรณบัตร ข้อมูลจึงมีความล่าช้า ไม่สามารถสะท้อนสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที และประการสุดท้าย คือ การมีโรคระบาดทำให้ระบบสาธารณสุขไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โรงพยาบาลหลายแห่งเตียงเต็ม แพทย์มีคนไข้ล้นมือ บวกกับความเสี่ยงในการติดเชื้อจากการไปใช้บริการในสถานพยาบาล ทำให้ประชาชนโดยรวมใช้บริการสาธารณสุขที่จำเป็นต่อสุขภาพลดลง ซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตจากสาเหตุอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นกว่าภายใต้สถานการณ์ปกติ
การตายส่วนเกิน (excess mortality) เป็นสถิติเกี่ยวกับการตายที่สามารถสะท้อนถึงความรุนแรงของสถานการณ์โรคระบาดได้ดีกว่าตัวเลขการเสียชีวิตจากโควิด-19 โดยตรง การตายส่วนเกินเป็นการเปรียบเทียบจำ.นวนการเสียชีวิตทั้งหมดจากทุกสาเหตุ กับการคาดประมาณการเสียชีวิตหากอยู่ภายใต้สถานการณ์ปกติ นั่นหมายความว่า การเสียชีวิตทั้งหมดไม่ว่าจะเกิดจากโควิด-19 หรือไม่ หากสูงกว่าตัวเลขการคาดประมาณ จะถือว่าเป็นการตายส่วนเกิน ที่เกิดขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการระบาดของโควิด-19 นั่นเอง
ข้อมูลจาก The Economist ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พบว่า การตายส่วนเกินจากทั่วโลกในช่วงโรคระบาดนี้อยู่ที่ราว 7-13 ล้านราย ซึ่งสูงกว่าตัวเลขการตายจากโควิด-19 ถึง 2-4 เท่า ความแตกต่างระหว่างสถิติทั้งสองนี้ แสดงให้เห็นว่าตัวเลขการตายจากโควิด-19 สะท้อนผลกระทบของโควิด-19 ต่ำเกินไปจริงๆ
สำหรับประเทศไทย อัตราตายส่วนเกินถือว่าไม่ได้สูงมากเทียบกับนานาประเทศ อยู่ที่ราว 22 รายต่อประชากรหนึ่งแสนคน (ข้อมูลคำนวณจากช่วง 1 เมษายน 2564–31 กรกฎาคม 2564) นั่นคือ จากประชากรหนึ่งแสนคนจะมีคนไทยที่ตายเพิ่มขึ้นเปรียบเทียบกับภาวะปกติ 22 คน ซึ่งเป็นการตายจากทุกสาเหตุ เปรียบเทียบกับสหรัฐอเมริกาที่มีอัตราตายส่วนเกินสูงกว่าประเทศไทยมากที่ 228 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคน (ข้อมูลคำนวณจากช่วง 8 มีนาคม 2564–7 สิงหาคม 2564) ซึ่งสูงกว่าประเทศไทย 10 เท่า
ถึงแม้การตายส่วนเกินของประเทศไทยไม่ได้สูงมากแต่จำนวนการตายส่วนเกินของประเทศไทยสูงกว่าจำนวนการตายจากโควิด-19 ที่ทางการรายงานกว่า 3 เท่า (จำนวนการตายส่วนเกิน 14,660 ราย เปรียบเทียบจำนวนการตายจากโควิด 4,850 ราย) ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีความแตกต่างระหว่างจำนวนการตายส่วนเกินกับจำ.นวนการตายจากโควิดต่ำกว่ามาก (จำนวนการตายส่วนเกิน 745,780 ราย เปรียบเทียบกับจำนวนการตายจากโควิด 608,070 ราย) ซึ่งเป็นการเน้นย้ำว่าตัวเลขการเสียชีวิตจากโควิด-19 ในประเทศไทย ไม่สามารถสะท้อนให้เห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมดได้จริงๆ
การตายส่วนเกิน จึงเป็นสถิติสำคัญที่ควรถูกประชาสัมพันธ์มากยิ่งขึ้น ให้ประชาชนทั่วไปได้รู้จักและรับรู้กับสถานการณ์ความรุนแรงของการระบาดโควิด-19 ได้ดียิ่งขึ้นและควรเป็นตัวเลขที่รัฐบาลควรต้องใช้ควบคู่ไปกับตัวเลขการเสียชีวิตจากโควิด-19 เพื่อวางมาตรการรับมือกับการระบาดของโควิด-19 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดได้ดียิ่งขึ้น
ที่มา: https://www.infoquest.co.th/2021/118554 สืบค้นเมื่อ 20 กันยายน 2564
อ้างอิง
https://www.economist.com/graphic-detail/coronavirus-excess-deaths-tracker สืบค้นเมื่อ 6 กันยายน 2564
ประทีป นัยนา
ดวงวิไล ไทยแท้
ภัทราภรณ์ จึงเลิศศิริ
นันท์สินี ศิริโกสุม,ปิยวัฒน์ เกตุวงศา
วรชัย ทองไทย
อมรา สุนทรธาดา
มนสิการ กาญจนะจิตรา
ทิฆัมพร สิงโตมาศ
ดนุสรณ์ โพธารินทร์
ปราโมทย์ ประสาทกุล
มนสิการ กาญจนะจิตรา
สุภรต์ จรัสสิทธิ์
วรชัย ทองไทย
มนสิการ กาญจนะจิตรา
นงนุช จินดารัตนาภรณ์
ภัทราภรณ์ จึงเลิศศิริ
วรชัย ทองไทย
เพ็ญพิมล คงมนต์
สุรีย์พร พันพึ่ง
ปัทมา ว่าพัฒนวงศ์
ปราโมทย์ ประสาทกุล
สุพัตรา ฌานประภัสร์
จงจิตต์ ฤทธิรงค์
ปัทมา ว่าพัฒนวงศ์
มนสิการ กาญจนะจิตรา
ปราโมทย์ ประสาทกุล
ปราโมทย์ ประสาทกุล
สุริยาพร จันทร์เจริญ
ติณณภพจ์ สินสมบูรณ์ทอง
วรชัย ทองไทย
อมรา สุนทรธาดา
อมรา สุนทรธาดา
ปราโมทย์ ประสาทกุล
โซรยา จามจุรี
กาญจนา เทียนลาย
ปราโมทย์ ประสาทกุล
กุลภา วจนสาระ
อมรา สุนทรธาดา