การตลาดอาหารที่มีน้ำตาล ไขมัน และโซเดียมสูง สินค้าทดแทนนมแม่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาสูบ มีผลต่อทัศนคติ1 และพฤติกรรมการซื้อ2,3 และการบริโภค2,4-6 ของผู้บริโภค หนึ่งในมาตรการป้องกันปัญหาและผลกระทบจากการทำการตลาดสินค้าที่มีผลเสียต่อสุขภาพ คือ กฎหมายหรือมาตรการในการควบคุมการตลาด7 ประเทศไทยมีกฎหมายในการควบคุมการตลาดอาหาร8-10 สินค้าทดแทนนมแม่11 เครื่องดื่มแอลกอฮอล์12 และยาสูบ13 ซึ่งกฎหมายเหล่านี้ให้อำนาจหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ที่มีบทบาทและหน้าที่ในการติดตามการทำการตลาดของสินค้าทั้ง 4 ประเภท เนื่องจากประเทศไทยมีร่างกฎหมายควบคุมการตลาดอาหารและเครื่องดื่มที่มีผลกระทบต่อสุขภาพเด็ก โดยร่างกฎหมายดังกล่าวกำหนดให้มีการติดตามการบังคับใช้กฎหมายในการควบคุมการตลาดอาหารและเครื่องดื่มฯ14 ดังนั้น การมีความรู้และความเข้าใจระบบการติดตามการตลาดอาหาร สินค้าทดแทนนมแม่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาสูบ ทำให้ได้ข้อมูลที่สำคัญต่อการพัฒนาระบบติดตามการตลาดอาหารและเครื่องดื่มฯ ต่อไป
จากการทบทวนวรรณกรรมด้วยการสืบค้นข้อมูลของหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม รวมทั้งการสัมภาษณ์ตัวแทนภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย วิชาการ และประชาสังคม พบว่า ระบบติดตามการตลาดของสินค้าทั้ง 4 ประเภท มีหน่วยงานภาครัฐเป็นหน่วยงานหลักที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมายและกระจายอำนาจให้แก่หน่วยงานในระดับท้องถิ่น นอกจากนี้ ระบบติดตามการตลาดอาหารมี
การดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานภายนอกกระทรวงสาธารณสุขอีกด้วย (รูปที่ 1)
รูปที่ 1 ระบบติดตามการตลาดของสินค้าทั้ง 4 ประเภทของประเทศไทย15
ระบบการติดตามภายในของอาหารมีหน่วยงานภาครัฐ จากส่วนกลาง ได้แก่ สำนักอาหารและคณะกรรมการเซ็นเซอร์ช่อง ตรวจสอบโฆษณาอาหารก่อนออกเผยแพร่ ซึ่งการตรวจสอบก่อนทำให้มั่นใจได้ว่า โฆษณาที่ได้รับการตรวจสอบนั้นจะโฆษณาได้ถูกต้องตามข้อกำหนดของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง16 ศูนย์จัดการเรื่องร้องเรียนและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ศรป.) ติดตามตรวจสอบการโฆษณาและรวบรวมข้อมูลสถานการณ์การละเมิดกฎหมายอาหารที่เกี่ยวข้องในสื่อต่างๆ16 และ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทำ MOU กับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อช่วยติดตามโฆษณาอาหารทางวิทยุและโทรทัศน์ หากพบการโฆษณาอาหารผิดกฎหมายผ่านเว็บไซต์ อย. ประสานศูนย์บริหารกฎหมายสาธารณสุข กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) ในการสั่งปิดเว็บไซต์ที่โฆษณาอาหารผิดกฎหมาย17,18 ในส่วนท้องถิ่น กลุ่มคุ้มครองผู้บริโภคของ สสจ. (คบ. สสจ.) ติดตามตรวจสอบการปฏิบัติตามมาตรฐานการผลิตและการบริการ การโฆษณา รวมถึงการจำหน่ายอาหารตามที่กฎหมายกำหนด ระบบรับเรื่องร้องเรียนของอาหาร มีทั้งหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ ศรป. และภาคประชาสังคม คือ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียนและดำเนินการจัดการเรื่องร้องเรียน16
ที่มา: https://www.delta-n.nl/succesvoller-in-devops-door-monitoring/
ระบบการติดตามภายในของสินค้าทดแทนนมแม่ คือ กลุ่มพัฒนาอนามัยแม่และเด็ก กรมอนามัย โดยส่วนกลาง มีเจ้าหน้าที่ในการติดตาม ได้แก่ ปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สาธารณสุขนิเทศก์ ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่สังกัดกรมอนามัย ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่สังกัด อย. ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่สังกัดกรมสนับสนุนบริการสุขภาพและข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่สังกัดกรุงเทพมหานคร16 ในส่วนท้องถิ่น ประกอบด้วย ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ (สนอ.) โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เจ้าหน้าที่ทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบการตลาดทุก 3 เดือน ใน (1) ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ร้านขายส่ง ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา (2) หน่วยบริการสาธารณสุข (3) หน่วยบริการสาธารณสุขที่เป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ และ (4) ศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียน สถานที่รับเลี้ยงเด็ก หากพบการกระทำผิด ถ่ายรูป และส่งศูนย์บริหารกฎหมายสาธารณสุข ให้คณะทำงานชี้มูลตรวจสอบ หากกระทำผิดเปรียบเทียบปรับ19 ระบบรับเรื่องร้องเรียนของสินค้าทดแทนนมแม่มีกลไกสำหรับภาคประชาสังคม เช่น มิสนมแม่ ติดตาม เมื่อพบการกระทำที่สงสัยว่าจะเป็นความผิด ส่งข้อมูลให้เจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องเรียน แล้วเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน ส่งให้คณะทำงานชี้มูล เพื่อพิจารณาการกระทำความผิด
ระบบการติดตามภายในของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ มีทั้งภาครัฐและภาควิชาการทำหน้าที่ติดตามการตลาด โดยระบบการติดตามการตลาดของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในส่วนกลาง ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (สคอ.) ติดตามการโฆษณาและการสื่อสารการตลาดตามสื่อและช่องทางต่า งๆ และภาควิชาการ ได้แก่ ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) แผนงานการพัฒนาระบบการดูแลผู้มีปัญหาการดื่มสุรา (ผรส.) และศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) สนับสนุนทุนให้แก่นักวิชาการ เพื่อศึกษาติดตามการโฆษณาและการสื่อสารการตลาดที่นอกเหนือกฎหมายควบคุม12,16 ในขณะที่สำนักควบคุมการบริโภคยาสูบ และศูนย์กฎหมายของกรมควบคุมโรค มีหน้าที่ติดตามสื่อต่างๆ เน้นตามข้อกำหนดกฎหมาย และภาควิชาการ ได้แก่ ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) สำรวจการตลาดและการโฆษณายาสูบทุกปี16 และให้ทุนสนับสนุนนักวิชาการจัดอบรมให้ความรู้แก่ภาคประชาสังคม เพื่อสร้างความเข้าใจในการติดตามเฝ้าระวังการตลาดยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์20 ภาคประชาสังคม ได้แก่ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ติดตามฯ ข่าวของอุตสาหกรรมยาสูบ และการติดตามทางสื่อสังคมออนไลน์และอินเทอร์เน็ต ทั้งเป็นประจำและแบบบังเอิญพบเห็นที่เว็บไซต์ของผู้ผลิตบุหรี่ แล้วออกรายงานประจำเดือน16 ส่วนท้องถิ่น ทั้งระบบการติดตามการตลาดของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบมีคณะกรรมการควบคุมระดับจังหวัด และศูนย์กฎหมายของกรมควบคุมโรค มีเครือข่ายติดตามฯ ในระดับพื้นที่ ได้แก่ หน่วยปฏิบัติการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และผลิตภัณฑ์ยาสูบ (Alcohol and Tobacco Control Operation Unit: ATCU) หรือ ทีม ATCU เป็นการบูรณาการการดำเนินงานเรื่องร้องเรียนร่วมกันระหว่างเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ ซึ่งประกอบไปด้วย ตำรวจ เจ้าหน้าที่ปกครอง เจ้าหน้าที่สรรพสามิต พนักงานเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเครือข่ายภาคประชาชน ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง และบังคับใช้กฎหมาย
ระบบรับเรื่องร้องเรียนของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ มีระบบรับเรื่องร้องเรียนของกรมควบคุมโรค ได้แก่ ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนบุหรี่สุราและระบบรับเรื่องร้องเรียนออนไลน์ ชื่อว่า Tobacco & Alcohol Surveillance หรือ TAS เพื่อติดตามการตลาด ซึ่งเป็นการบูรณาการระบบการติดตามการตลาดร่วมกันระหว่าง สคอ. และศูนย์กฎหมายของกรมควบคุมโรค เมื่อได้รับเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะส่งเรื่องดังกล่าวให้แก่ สคอ. หากเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับยาสูบจะส่งเรื่องให้แก่ศูนย์กฎหมายของกรมควบคุมโรค เพื่อตรวจสอบและบังคับใช้ตามกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อไป16 ในส่วนภาคประชาสังคม ประกอบด้วย ทีม Alcohol Watch สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) มูลนิธิเมาไม่ขับ เครือข่ายรณรงค์ป้องกันแอลกอฮอล์ มูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชน เครือข่ายลดอุบัติเหตุ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ติดตามการตลาดทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบตามสื่อและช่องทางต่างๆ อย่างเป็นประจำ และส่งเรื่องร้องเรียนเข้าในระบบ TAS16
ที่มา: https://ncdalliance.org/why-ncds/NCDs
หน่วยงานหลักในการดำเนินการติดตามทั้ง 4 สินค้า คือ หน่วยงานภาครัฐซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ในขณะที่ระบบการติดตามภายในทั้ง 4 สินค้า มีภาคประชาสังคมช่วยติดตามการตลาดฯ อีกทั้งระบบติดตามการตลาดของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบมีภาควิชาการช่วยติดตามการตลาดร่วมด้วย และยังมีการบูรณาการระบบติดตามการตลาดฯ ร่วมกัน ทั้งระบบการติดตามภายในและภายนอก (ระบบรับเรื่องร้องเรียน) ระบบติดตามการตลาดฯ ของ 4 สินค้า ดังกล่าวข้างต้น ถือเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับผู้กำหนดนโยบายในการพัฒนาระบบการติดตามการตลาดอาหารและเครื่องดื่มฯ ที่เข้มแข็ง เพื่อปกป้องคุ้มครองสุขภาพของเด็กต่อไป
หมายเหตุ บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยเรื่อง การติดตามการตลาดที่เกี่ยวข้องกับอาหารและเครื่องดื่มสำหรับเด็กและเยาวชน ผ่านสื่อโทรทัศน์ และยูทูป ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการวิจัยด้านอาหารและโภชนาการเพื่อการสนับสนุนการขับเคลื่อนงานด้านอาหารและโภชนาการในประเทศไทย สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับทุนอุดหนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ Development of monitoring and evaluation (M&E) framework to support controls on the marketing of unhealthy food and drink to children in Thailand (การพัฒนากรอบการดำเนินการติดตามและประเมินผลเพื่อสนับสนุนการควบคุมการตลาดอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่ดีต่อสุขภาพเด็กในประเทศไทย) สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับทุนอุดหนุนจากยูนิเซฟ (UNICEF)
เอกสารอ้างอิง