The Prachakorn

มุมมองเชิงบวกต่อ "เด็กข้ามชาติ" ในยุคสังคมไทยเกิดน้อย


เฉลิมพล แจ่มจันทร์

15 พฤศจิกายน 2564
1,416



ข้อมูลล่าสุดจากสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง แสดงจำนวนเกิดของเด็กในประเทศไทย      ที่ยังคงลดลงต่อเนื่อง โดยในปี 2563 เป็นปีแรกที่จำนวนเด็กเกิดมีจำนวนต่ำกว่า 600,000 คน (ต่อปี) เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยนับว่าต่ำกว่าเกือบเป็นครึ่งต่อครึ่งเมื่อเทียบกับจำนวนเกิดของเด็กในช่วง 40-50 ปีก่อน ที่ปีหนึ่งๆ มากถึง 1-1.2 ล้าน โดยการเกิดของเด็กทั้งหมดในปี 2563 อยู่ที่ 587,368 คน หากสังเกตจะเห็นว่าผู้เขียนใช้คำว่า "การเกิดของเด็กทั้งหมด" ซึ่งในที่นี้จะครอบคลุม ทั้งเด็กที่มีสัญชาติไทยและเด็กที่ไม่มีสัญชาติไทยที่เกิดในประเทศและได้เข้าถึงการจดทะเบียนการเกิดกับสำนักบริหารการทะเบียน คำถามก็คือ แล้วในจำนวนเด็กเกือบประมาณ 6 แสนคนนี้ ซักประมาณเท่าใดที่เป็นเด็กที่ไม่มีสัญชาติไทย...ซึ่งผู้เขียนเอง ก็ไม่มีข้อมูลสำหรับปี 2563 แต่สำหรับปี 2562 ซึ่งมีจำนวนเด็กเกิดในประเทศไทยทั้งหมด 618,193 คน ผู้เขียนมีข้อมูลที่พบว่าในจำนวนนี้เป็นเด็กที่ไม่มีสัญชาติไทยอยู่ที่ 21,269 คน และเด็กที่มีสัญชาติไทยอยู่ที่ 596,924 คน (ซึ่งตามตัวเลขนี้ จริงๆ แล้ว จำนวนการเกิดของเด็ก(สัญชาติ)ไทย นั้นมีจำนวนต่ำกว่า 6 แสนคนมาตั้งแต่ปี 2562)

จำนวนเด็กที่ไม่มีสัญชาติไทยที่เกิดในปี 2562 ประมาณ 2 หมื่นกว่าคนนี้ ค่อนข้างต่ำกว่าที่ผู้เขียนคาดไว้ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเนื่องจากครอบคลุมเฉพาะเด็กที่เกิดและเข้าถึงการจดทะเบียนการเกิดเท่านั้น ซึ่งหากดูข้อมูลย้อนหลังกลับไปประมาณ 10 ปี จะเห็นว่าจำนวนการเกิด (จากการจดทะเบียนเกิด) ของเด็กที่ไม่มีสัญชาติไทยมีจำนวนประมาณ 7 พันคนในปี 2553 ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงปี 2553 ถึง 2558 และปี 2560 ที่มีจำนวนเด็กที่ไม่มีสัญชาติไทยเกิดถึงมากกว่า 40,000 คนต่อปี ก่อนที่จะลดลงเหลือเพียงครึ่งหนึ่งในปี 2562 (เป็นเพราะเหตุผลใด เป็นคำถามที่น่าหาคำตอบ)

ที่น่าสนใจจากการพิจารณาสถิติการเกิดของเด็กในประเทศไทยนี้มีอยู่หลายประเด็น จากข้อมูลเราเห็นได้ชัดว่าสังคมไทยเข้าสู่สังคมเกิดน้อยเต็มตัวอย่างชัดเจนโดยจำนวนการเกิดของเด็กไทยลดลงอย่างมากและต่อเนื่องมาโดยตลอด คำถามก็คือ ในอนาคต การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรเช่นนี้จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เด็กเกิดใหม่น้อยลงในตอนนี้ ย่อมหมายถึงอนาคตที่จำนวนประชากรวัยกำลังแรงงานของประเทศจะลดลง สัดส่วนกำลังแรงงานและเด็กรุ่นใหม่ที่เป็นฟันเฟืองกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศและเศรษฐกิจภาคต่างๆ จะลดน้อยลงเรื่อย ๆ ขณะที่ประเทศเข้าสู่การเป็นสังคมสูงอายุที่มีสัดส่วนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในอนาคต อาจมีความเป็นไปได้ที่เราจะต้องดำเนินนโยบายเหมือนกับในหลายๆ ประเทศทางฝั่งตะวันตก หรือประเทศญี่ปุ่นที่เป็นสังคมสูงอายุ ที่ต้องมีการเปิดรับประชากรแรงงานจากต่างชาติมากขึ้นเพื่อเข้ามาทำงานขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในส่วนที่ขาดแคลนกำลังแรงงาน

สำหรับประเทศไทย ในแต่ละปี เรามีเด็กข้ามชาติที่ติดตามพ่อแม่ที่เป็นแรงงานข้ามชาติเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศ จำนวนหนึ่งเกิดและเติบโตในประเทศไทย ไม่ว่า พ่อแม่ของเด็กจะเข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือมีเอกสารหรือไม่ แต่การปกป้องคุ้มครองสิทธิเด็ก ให้เข้าถึงการจดทะเบียนการเกิด เข้าถึงการศึกษาขั้นพื้นฐานและบริการสุขภาพที่จำเป็น ย่อมเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถมองข้ามได้ ซึ่งหากมองในมุมเชิงบวก ภายใต้สถานการณ์สังคมเกิดน้อยของประเทศไทยที่เป็นอยู่ในขณะนี้ การให้สวัสดิการการคุ้มครองสิทธิเด็ก การลงทุนด้านการศึกษาและสุขภาพเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและทุนมนุษย์ให้กับเด็กข้ามชาติที่เกิดและ/หรืออาศัยอยู่ในประเทศไทยน่าจะเป็นทางเลือกการลงทุนที่สามารถเป็นสินทรัพย์ สร้างประโยชน์ให้กับการพัฒนาประเทศไทยระยะยาวในอนาคตได้


รองศาสตราจารย์ ดร.เฉลิมพล แจ่มจันทร์
ทีมวิจัยโครงการ“การประเมินสถานการณ์เด็กข้ามชาติในประเทศไทยและผลกระทบจากโควิด-19”
สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล



CONTRIBUTOR

Related Posts
COVID-19 : รักษาระยะห่าง ดูแลระยะใจ 

พงษ์ศักดิ์ สกุลทักษิณ,ปัทมา ว่าพัฒนวงศ์

เงิน….. งาน…… บันดาลสุขอย่างไร? ในวันที่ต้อง Work From Home

จรัมพร โห้ลำยอง,ศิรินันท์ กิตติสุขสถิต

Work From Home (WFH)

ดนุสรณ์ โพธารินทร์

เลี้ยงลูกในยุคโรคระบาด

มนสิการ กาญจนะจิตรา

ด้วยรักและโรคระบาด

ภัทราภรณ์ จึงเลิศศิริ

โกหกคำโต (big lie)

วรชัย ทองไทย

เมื่อโควิด-19 กำลังจะผ่านไป

ปราโมทย์ ประสาทกุล

มองประชากรศึกษาผ่านกรอบเควียร์

ติณณภพจ์ สินสมบูรณ์ทอง

สมองไทยย้ายถิ่น

สักกรินทร์ นิยมศิลป์

บ้านนี้มีแต่ผู้สูงอายุ

กาญจนา ตั้งชลทิพย์

สามเดือน...ยังไม่พอ

มนสิการ กาญจนะจิตรา

พิธีและพิธีกรรม

วรชัย ทองไทย

ผมกำลังเตรียมตัวตาย

ปราโมทย์ ประสาทกุล

Copyright © 2020 สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170
โทรศัพท์ 02-441-0201-4 โทรสาร 02-441-9333
Webmaster: piyawat.saw@mahidol.ac.th